อายัดตัว อดีตตำรวจดัง อ้างที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. ตุ๋นนักธุรกิจ รับงานก่อสร้าง สูญเงินกว่า30ล้าน
GH News April 21, 2025 09:40 PM

เหยื่อโผล่รอชี้ตัว อายัดตัว อดีตตำรวจดัง อ้างที่ปรึกษาผู้ว่า ฯ กทม. ตุ๋นหนุ่มนักธุรกิจ ลงทุนรับงานก่อสร้างท่อประปา จ.กาฬสินธุ์ สูญกว่า 30 ล้านบาท

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 21 เม.ย.ที่สน.พหลโยธิน นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณรณฤทธิ์ ภูแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อรอชี้ตัว นายสุวัฒน์  อายุ 51 ปี อดีตตำรวจ ยศ ร.ต.อ. สังกัด สน.พญาไท และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1695-1696/2568 ลงวันที่ 10 มี.ค.68 ข้อหาฟ้องเท็จ และ เบิกความอันเป็นเท็จ ตามเลขคดีอาญา ที่ 170-171/2568 ขณะถูกฝากขังอยู่ศาลแขวงพระนครใต้ในคดีเช็กเด้ง

โดยพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างขออายัดตัว เพื่อนำตัวมาที่ สน.พหลโยธิน หลังก่อเหตุหลอกลวงให้ นายอิทธิเดช ลงทุนรับงานโครงการก่อสร้างท่อประปาที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. จนทำให้สูญเงิน กว่า 30 ล้านบาท

นายอิทธิเดช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ถูกอดีตนายตำรวจที่อ้างตัวเองว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. หลอกให้ไปรับเหมาช่วงโครงการก่อสร้างวางแนวท่อน้ำประปาที่จังหวัดกาฬสินธุ์มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท อ้างว่าโครงการดังกล่าวเดินหน้าไปแล้วกว่า 60%  เมื่อตนหลงเชื่อ ก็ตกลงรับช่วงโครงการในราคา 20 ล้านบาท โดยจ่ายเงินให้อดีตตำรวจ 14 ล้านบาท ส่วนอีก 5 ล้านบาทเป็นเงินที่อดีตนายตำรวจเคยเป็นหนี้ตนจึงเอามาทบเงินกันไปให้ครบ 20 ล้านบาท สุดท้ายเมื่อเดินโครงการไปได้ 1 ปีพบว่า เงินประกันในโครงการดังกล่าวถูกกรมสรรพากรยึดไปเพราะบริษัทของอดีตนายตำรวจไม่ชำระภาษี จึงยุติโครงการ เพราะตนเองไม่สามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายในโครงการได้เกือบ 30 ล้านบาท

นายอิทธิเดช ยังกล่าวว่า ซ้ำร้ายกับพบว่า หลังอดีตนายตำรวจได้เงิน 14 ล้านบาท จากตน อดีตนายตำรวจก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากบริษัทตัวเอง และนำเงินจำนวนดังกล่าว ยักย้ายถ่ายเทไป ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกได้กำชับให้นำเงิน 14 ล้านบาท ไปชำระหนี้ภาษี จึงรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกือบ 40-50 ล้านบาท จากอดีตตำรวจคนนี้ ในตอนแรกได้แจ้งความที่ สน.บางซื่อ เมื่อกลางปี 2566 และสามารถติดต่อตกลงกันได้ว่าจะใช้หนี้เดือนละ 100,000 บาท แต่ใช้ไปได้ 2 เดือน อดีตตำรวจคนนี้ก็หายตัวไปตั้งแต่พฤศจิกายน เลยทำให้ตนต้องแจ้งความที่ สน.บางซื่อ รอบที่ 2 แต่ครั้งนี้อดีตนายตำรวจให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี ซึ่งตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาล

นายอิทธิเดช กล่าวอีกว่า ส่วนที่มาเป็นคดีความที่ สน.พหลโยธิน เกิดจากอดีตนายตำรวจได้ฟ้องศาลอาญาหาว่าตนแจ้งความเท็จ สุดท้ายศาลยกฟ้อง ตนจึงแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เมื่อปลายปีที่แล้วกลับในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้คนอื่นรับโทษอาญา โดยศาลเพิ่งออกหมายจับเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และวันนี้ตัวอดีตนายตำรวจเพิ่งถูกศาลแขวงพระนครใต้พิพากษา จำคุก 20 เดือนจาก คดีเช็คเด้ง ทางตำรวจ สน.พหลโยธิน จึงนำหมายจับเตรียมไปอายัดตัวหากอดีตนายตำรวจได้รับการประกันตัวและตนเดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อรอชี้ตัว

นายอิทธิเดช กล่าวต่อมา ทั้งนี้ตนก็รู้สึกดีใจที่สามารถได้ตัวอดีตตำรวจคนนี้กลับมาดำเนินคดีได้ ยิ่งถ้าหากศาลไม่ให้ประกันตัวและถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ ตนก็ยิ่งดีใจและมองว่าเวรกรรมตามทัน แม้เงินที่เสียไปเกือบ 40 กว่าล้านบาท จะไม่มีโอกาสได้กลับคืนมา แต่ตนก็ยังคงมีหวังและอย่างน้อยก็ทำให้สังคมสามารถขจัดคนไม่ดีออกไปได้ เพราะตนเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อที่ถูกในอดีตตำรวจคนนี้ฉ้อโกงอีกจำนวนมาก

ส่วนประเด็นที่อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. นั้น ตนเคยสอบถาม นายชัชชาติ แล้วก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยอดีตตำรวจคนนี้เป็นยศร้อยตำรวจเอก เคยเป็นพนักงานสอบสวนสังกัด บช.น. และ ลาออกจากราชการมานานแล้ว เพื่อทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รู้จักกันตั้งแต่ปี 2564 ผ่านเพื่อนอีกทีนึง โดยมีอุปนิสัยชอบอวดอ้างผู้หลักผู้ใหญ่ตำรวจ

ต่อมาเวลา 18.20 น.ที่สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ควบคุมตัว นายสุวัฒน์  อายุ 51 ปี อดีตตำรวจ ยศ ร.ต.อ. สังกัด สน.พญาไท ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1695-1696/2568 ลงวันที่ 10 มี.ค.68 ข้อหาฟ้องเท็จ และ เบิกความอันเป็นเท็จ หลังขออายัดตัวจากศาลแขวงพระนครใต้ ในคดีเช็กเด้ง (ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร) ภายหลังได้รับการประกันตัว เพื่อนำตัวมาส่งมอบให้กับ พ.ต.ท.ณรณฤทธิ์ ภูแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน แจ้งข้อหาตามหมายจับดังกล่าว เพิ่มเติม 2 หมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสุวัฒน์ ผู้ต้องหาเดินทางมาถึงโรงพัก ในชุดสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกงขายาว ถือถุงเอกสารและมีการใช้โทรศัพท์มือถือเดินคุยมาระหว่างทางโดยมีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารออยู่ด้านหน้า สน. นายสุวัฒน์ ได้ชี้หน้า และไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ โดยพูดว่า ” คุณทำผิดกฎหมาย PDPA นะ.. ผมฟ้องคุณจริงนะ” แต่สื่อมวลชน จึงอธิบายกลับไปว่า “ผมเป็นสื่อครับ ผมแค่อยากให้คุณชี้แจง มันมีข้อยกเว้นนะครับ” จากนั้นนายสุวัฒน์ ได้ถูกนำตัวเข้าห้องร้อยเวรสอบสวนไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติ นายสุวัฒน์ ผู้ต้องหา เคยปรากฎข่าว เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2560 เป็นอดีตนายตำรวจมากฝีมือ ผันตัวเป็นนักพัฒนาสร้างเทคโนโลยีไอทีล้ำสมัย เพื่อเตรียมนำให้กับหน่วยงานภาครัฐไปใช้ประโยชน์ โดยการระบุตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพระบบ Biomatric ประกอบด้วย 1.ภาพใบหน้า (Face Recognition System), 2.ลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Recognition), 3.ภาพม่านตา (Iris Recognition System), 4.LPR ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถออนไลน์ และ 5.Anubis Cyber Security ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตเป็นคนไทยทั้งหมด

รวมถึงกระบวนการผลิตระบบที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยที่มีคุณภาพและความเร็วดีกว่า ประหยัดงบประมาณในการซื้อองค์ความรู้มาจากต่างประเทศนับหลายร้อยล้านบาท นอกจากนี้ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ Anubis Cyber Security สำหรับการรักษาความปลอดภัยทาง Cyber ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย และใช้งานได้จริง สำหรับมาตรการการป้องกันการโจมตีทาง Cyber ของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชน รวมถึงหน่วยงานตำรวจนำไปใช้เก็บข้อมูลคนร้าย

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.