หลังจากย้ายไปชัยนาท อาการของน้องวิเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีภาวะความดันตก หัวใจเต้นช้าลง จนต้องย้ายเข้าห้องไอซียูอีกครั้ง ซึ่งทำให้ กุ้ง สุธิราช เริ่มรู้สึกว่าอาการน้องกลับไปคล้ายช่วงที่ป่วยหนักครั้งแรก ๆ
ช่วงเวลาที่หัวใจสลายที่สุดคือตอนที่ กุ้ง สุธิราช ได้วิดีโอคอลคุยกับน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย เขาได้บอกน้องว่า "ไม่ต้องห่วงนะวิ ถ้ามันไม่ไหว ก็ไม่ต้องห่วงใดๆ ทั้งสิ้น ไปในที่ดีๆ บอกรักเขา บอกว่าพี่รักหนูนะวิ ไม่ต้องห่วงแม่ ไม่ต้องวาคิน ไม่ต้องห่วงใครทั้งนั้น ไปให้สบาย ให้พ่อมารับไปนะ"
กุ้ง สุธิราช เผยถึงคำพูดสุดท้ายของ คุณแม่ ที่ทำให้ วิ วิรดา จากไปอย่างสงบเพียง 5 นาทีว่า "คุณแม่บอกว่าไม่ต้องห่วงผัว ไม่ต้องห่วงลูก ไม่ต้องห่วงพี่ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าหนูจะไปไม่ต้องห่วงใครทั้งนั้น แม่อยู่ส่งหนูตรงนี้แล้ว" หลังจากนั้นความดันของน้องวิก็ตกลงจนวัดค่าไม่ได้ และน้องก็จากไปอย่างสงบ
แรงดลใจจากหลวงปู่และปาฏิหาริย์เมรุลอย
ก่อนหน้านี้ หลวงปู่ ซึ่งเป็นรองเจ้าคณะภาคที่ครอบครัวนับถืออย่างมาก ได้เคยทักคุณแม่ว่า "เอาลูกกลับมาบ้านเถอะ" และกล่าวว่า "ไอ้วิ ขึ้นอยู่ที่แม่มัน อยู่ที่แกแหละว่าจะอนุญาตให้ไปตอนไหน ทำใจได้หรือยัง" ซึ่งคุณแม่ก็ทราบดีว่าลูกสาวคงไม่ฟื้น
ในวันฌาปนกิจศพ วิ วิรดา นั้น หลวงปู่ได้ทักว่าร่างกายของน้องวิเหมือนตุ๊กตา ตัวนิ่ม ไม่เหมือนคนอื่นที่จากไป ท่านจึงแนะนำให้จัด เมรุลอย เพราะน้องไปพร้อมบุญ เพื่อไม่ให้เผาร่วมกับใคร ซึ่งได้รับการอนุญาตจากโรงเรียนที่อยู่ตรงข้ามบ้านให้ใช้สนามฟุตบอลในการจัดงาน
สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ แม้จะมีการพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงวันจัดงาน แต่ในวันประกอบพิธีจริง ฟ้ากลับเปิด ไม่มีฝนตกเลย ทำให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น คุณแม่เชื่อมั่นในบุญของลูกสาวว่าน้องไปสู่ภพภูมิที่ดี

เอ ไชยา มิตรชัย ซึ่งสนิทสนมกับ วิ วิรดา ก็ได้ส่งกำลังใจให้ครอบครัว วงศ์เทวัญ โดยบอกให้ทุกคนเข้มแข็ง และเชื่อว่า วิ วิรดา ได้ไปเป็นนางฟ้าแล้ว เพราะวันที่เห็นภาพน้อง น้องสวยมากและใสมาก
เรื่องราวของ วิ วิรดา วงศ์เทวัญ แสดงให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนที่รัก.