ในช่วงปี 2563 ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความต้องการเลือดสูง “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” ตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน ด้วยโครงการบริจาคโลหิต “มิตรให้โลหิต ต่อชีวิตให้กัน” ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและก้าวเข้าสู่ปีที่ 5

ตลอด 5 ปีที่ดำเนินงานมา โครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริจาคโลหิต โดยระดมรับบริจาคโลหิตไปแล้วกว่า 10,128,400 ซีซี สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการไปแล้วกว่า 80%

พร้อมชูกลยุทธ์ M.I.T.R สูตรสำเร็จแปลงพื้นที่มิกซ์ยูสและอาคารสำนักงานเป็นจุดรับบริจาคโลหิตร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ที่มียอดผู้บริจาคสูงถึงกว่า 1,300 คนต่อครั้ง

โครงการนี้เริ่มดำเนินงานที่สามย่านมิตรทาวน์เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะขยายผลความสำเร็จไปยังอาคารสำนักงานอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ประกอบด้วย สาทรสแควร์ (SATHORN SQUARE), ปาร์คเวนเชอร์ (PARK VENTURES) และเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI CENTER)

โดยเดินหน้าทำงานตามกรอบการดำเนินงานการสร้างคุณค่าทางสังคม ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ สังคมของทุกคน (Inclusive Community), สุขภาวะที่ดีแบบองค์รวม (Holistic Well-Being) และการสร้างโอกาสในการเติบโต (Enabling Opportunity)

พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดีตามเป้าหมายที่ 3 ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs)

“ธนพล ศิริธนชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยฯ ภูมิใจที่ โครงการ “มิตรให้โลหิต ต่อชีวิตให้กัน” ได้เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการเพิ่มปริมาณโลหิตสำรอง เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตมาอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี และจะมุ่งมั่นดำเนินโครงการนี้ต่อไป เพื่อมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม

โดยปี 2568 นี้ตั้งเป้ารับบริจาคโลหิตสะสมถึง 12,000,000 ซีซี ผ่านการดำเนินงานอย่างเป็นมิตรด้วยกลยุทธ์ M.I.T.R ที่ครอบคลุมการร่วมมือกับหลายภาคส่วน (Multi-Stakeholder Partnerships) ร่วมมือกับศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทย ในการดำเนินงานรับบริจาคโลหิต พร้อมเรียนรู้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการรับบริจาคโลหิต เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของทีมงานและผู้บริจาค

นอกจากนี้ โครงการยังได้รับความร่วมมือจากศิลปินชั้นนำที่เคยร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับสามย่านมิตรทาวน์ มากถึง 14 ท่าน อาทิ AnOfficerDies, Pomme Chan, FAHFAHS, Memiann Studio และ Dogplease ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนการบริจาคให้เป็นมากกว่าการช่วยเหลือ แต่เป็นการส่งต่อพลังแห่งการสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน

การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก (Insight Driven) วิเคราะห์ข้อมูลหลังจบกิจกรรม เพื่อให้เห็นถึงปัญหาและโอกาสที่นำไปสู่การออกแบบและปรับปรุงการดำเนินงานอยู่เสมอ, การทำงานเป็นทีม (Teamwork) และการรักษาผู้บริจาค (Retention) ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนการบริจาคให้เป็นมากกว่าการช่วยเหลือ แต่เป็นการส่งต่อพลังแห่งการสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน

ผลจากกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้มีผู้บริจาคที่กลับมาบริจาคซ้ำ หรือ “แฟนคลับ” ของโครงการสูงถึง 60% ของจำนวนผู้บริจาคทั้งหมด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างโครงการและผู้บริจาค

“เราหวังว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบของการบริจาคโลหิตที่สามารถขยายผลไปยังอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และอาคารมิกซ์ยูสอื่น ๆ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการให้และสนับสนุนสุขภาวะที่ดีของประชาชนตามเป้าหมายที่ 3 ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs)”