วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล “DPU RUN 2025: Anti-Aging Run วิ่งกับหมอ เพื่อชะลอวัย” โดยมี ดร. ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU) เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักวิ่งทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ Fun Run (2.5กิโลเมตร) , Micro Marathon (5กิโลเมตร) และ Mini Marathon(10 กิโลเมตร) เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในหมู่ประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของศาสตร์ชะลอวัย อีกทั้งยังเป็นเวทีที่สะท้อนบทบาทของ DPU ในฐานะศูนย์กลางแห่งการแพทย์และสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร. พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ ,ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดี วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ , รศ.ดร.ดรุณี รุจกรกานต์ คณบดีวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์ , รศ.ดร.ภก.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดีวิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส , ดร.พีระยุทธ มั่งคั่ง รองคณบดี วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ ร่วมปล่อยขบวนนักวิ่ง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน

ดร. ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า กิจกรรม DPU RUN 2025 ไม่เพียงเป็นกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสื่อสารแนวคิดเรื่อง การแพทย์แห่งอนาคต (Future Medicine) ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเชิงป้องกัน ผ่านศาสตร์ เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging & Regenerative Medicine) ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของแวดวงการแพทย์ทั่วโลก โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Anti-Aging Run เพื่อสุขภาพที่ยืนยาวและยั่งยืน”

“DPU มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็น ‘ศูนย์กลางการศึกษาด้านสุขภาพเชิงป้องกันและเวชศาสตร์ฟื้นฟูอย่างครบวงจร (Preventive & Regenerative Medicine Hub)’ บนพื้นฐานของแนวคิดที่ว่า ‘สุขภาพที่ดี ไม่ใช่เพียงการไม่มีโรค แต่หมายถึงการมีภาวะสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ’ หรือ Wellness อย่างแท้จริง” ดร.ดาริกา กล่าว

นอกจากนี้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ยังกล่าวอีกว่า กิจกรรมในครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของ 6 คณะและวิทยาลัยด้าน Health Science ของมหาวิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ, วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส, วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์, วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์, คณะเทคนิคการแพทย์ และคณะกายภาพบำบัด ที่ผนึกกำลังกันจัดงานในครั้งนี้ให้เป็นมากกว่าการวิ่ง แต่เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ด้านสุขภาพ และเป็นพื้นที่ที่คนรักสุขภาพจากทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมได้

“DPU RUN 2025 ไม่ได้เป็นแค่กิจกรรมของมหาวิทยาลัย แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพเชิงรุก โดยเฉพาะศาสตร์เวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการทำให้งานนี้เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของโครงการครั้งนี้” อธิการบดีกล่าว

ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า  DPU ให้ความสำคัญกับการศึกษาและสุขภาพควบคู่กันมาโดยตลอด โดยมีทั้งคณะและหลักสูตรระดับปริญญาตรี โท และเอกที่เกี่ยวข้องกับสายสุขภาพจำนวนมาก จึงเชื่อว่าองค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งถือเป็นหัวใจของการแพทย์แห่งอนาคต ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในชั้นเรียน แต่ควรถูกส่งต่อไปยังประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมที่มีสุขภาวะอย่างยั่งยืน

วันนี้ DPU RUN 2025 ไม่ใช่แค่เส้นทางการวิ่ง แต่คือ สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นดูแลตนเอง และคือการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า สุขภาพในวันนี้ คือรากฐานอนาคตที่ยั่งยืน โดยภายในงานได้รับความร่วมมือจากกลุ่มนักศึกษาและศิษย์เก่าของวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ รวมถึงศิลปิน ดารา และอินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพที่มีชื่อเสียง มาร่วมวิ่งการกุศล กว่า 50 คน อาทิ เมย์ วาสนา , หญิง รฐา – ตุลย์ ตุลยเทพ, เกรท วรินทร, เต้ย พงศกร, หนูนา หนึ่งธิดา,  กัณณวัชรน์ เกื้อกาญจนาภรณ์, มะนาว ศรศิลป์ , หมูแฮม โชตินภา นางสาวไทย 2568 , แพรว กีราณา รองอันดับ 2 นางสาวไทย 2568 , แก้ม พณิดา รองอันดับ 3 นางสาวไทย 2568 ,โค้ชเดี่ยว–ปฏิการ เพชรศรีชา อดีตนักกรีฑาทีมชาติไทย และอินฟลูเอนเซอร์สายวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกับอย่างคับคั่ง

ด้าน ดร.พีระยุทธ มั่งคั่ง รองคณบดี วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ที่มาร่วมบริจาคเงินและออกบูธจำนวน 36 อาทิ บูธ Revomed Thailand , บูธ อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) ,บูธ MGC Asia X .Xpeng Thailand , บูธ วอนเทค เอเชีย , บูธ แสนสิริ , บูธ ไอยรา แพลนเน็ต , บูธ เอซเธติค บาย แอมเพ็ค , บูธ เลเซอร์ เอ็นจิเนียริ่ง , บูธ วู้ดเบอร์รี่ เฮ้าส์ เป็นต้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์สาธารณะทั้งหมด แบ่งเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ 1.กองทุนช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีที่เรียนดีแต่ประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งนักศึกษาจะต้องยื่นโครงการเพื่อรับการพิจารณา และ 2.สนับสนุนให้กับ มูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพ

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักที่ร่วมบริจาคเพื่อการกุศลในกิจกรรม “DPU RUN 2025 – วิ่งกับหมอ เพื่อชะลอวัย” อาทิ Revomed Thailand และบริษัทในเครือ, บริษัท พารากอนแคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท อีเด็นคัลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็กซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท วอนเทค เอเชีย จำกัด ตลอดจนขอขอบคุณผู้สนับสนุนร่วมรายอื่น ๆ รวมถึงทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการทำให้งานครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ และประสบความสำเร็จ ซึ่งกิจกรรมนี้สะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสังคมด้วยองค์ความรู้และความรับผิดชอบต่อสุขภาวะของประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการผลักดันอุตสาหกรรมสุขภาพและเวลเนสอย่างยั่งยืน” รองคณบดี วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ DPU กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ รศ.ดร.ภก.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดีวิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า วิทยาลัยฯ มุ่งพัฒนานวัตกรรมสุขภาพแบบองค์รวมโดยบูรณาการภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเข้ากับเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนทั้งในเชิงป้องกัน ฟื้นฟู และรักษา  ตัวอย่างหนึ่งในบริการที่โดดเด่นคือ “Smart Brain Massage” การนวดกระตุ้นและส่งเสริมสุขภาพสมองภายใน 8 นาที ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของธาตุลมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลช่วยการไหลเวียนโลหิตได้อย่างดี ลดความเครียด ทำให้นอนหลับสบาย และส่งเสริมความจำ เหมาะสำหรับกลุ่มคนทำงานและผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง DPU คลินิกแพทย์แผนไทยต้นแบบในระดับพรีเมียม เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ด้วยยาสมุนไพรไทยที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีสมุนไพรขั้นสูง ที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยและรักษาอาการโรคอันเกิดจากการทำงาน เช่น ออฟฟิศซินโดรม พร้อมแผนขยายนวัตกรรมสู่โรงงานผลิตสมุนไพรและศูนย์นวัตกรรมตำรับยาแผนไทยมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยสู่การสร้างเศรษฐกิจสุขภาพอย่างยั่งยืน

“วิทยาลัยฯ ได้พัฒนาหลักสูตรปริญญาตรีด้านการแพทย์แผนไทยให้ทันสมัย รองรับแนวโน้มสุขภาพในอนาคต พร้อมมีหลักต่อยอดสู่ระดับปริญญาโทและกำลังวางแผนระดับปริญญาเอกในอนาคต โดยแบ่งหลักสต่อยอดการเรียนรู้เป็น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ สายคลินิก (Clinical Track) ที่เน้นการวิจัยทางคลินิกเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาอย่างเป็นระบบยกมาตรฐานสู่เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ที่มีผลการวิจัยยืนยันชัดเจน และสายพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development Track) ที่มุ่งสร้างยาสมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทยให้ได้คุณภาพระดับสากล รองรับการผลิตเชิงอุตสาหกรรมและการต่อยอดเชิงธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม นี่คือการสร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพและเวลเนสที่มีอัตลักษณ์ไทย” คณบดีวิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส DPU กล่าว

สำหรับผลการแข่งขันในแต่ละระยะ ได้แก่ Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร รางวัลชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่ นายฉัตรชัย บุญที เวลา 36.07 นาที และรางวัลชนะเลิศประเภทหญิง นางสาวปัทมา วสุนันท์ เวลา 43.22 นาที Micro Marathon ระยะทาง 5 กิโลเมตร รางวัลชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่ นายปิยะบุตร ตาแก้ว เวลา20.11 นาที รางวัลชนะเลิศประเภทหญิง ได้แก่ นางสาวสุธีรา บุญขำ เวลา 22.59 นาที นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลพิเศษ TOP 100 สำหรับผู้เข้าเส้นชัยอันดับต้น ๆ ในระยะ 10 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้น 200 รางวัล พร้อมด้วยของรางวัลสุดพิเศษ อาทิ iPad และ Apple Watch ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและเพิ่มสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละประเภทอย่างคับคั่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังใจจากผู้ชมและกองเชียร์ตลอดเส้นทางการแข่งขัน

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีนักวิ่งและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการร่วมสนุกกับกิจกรรม Lucky Draw ตามบูธสุขภาพต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ภายในงานยังมีการให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น พร้อมนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ, วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส, วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์ และ คณะเทคนิคการแพทย์ ที่มาร่วมจัดแสดงองค์ความรู้ด้านการศึกษาและสุขภาพ ตลอดจนให้คำแนะนำด้านโภชนาการ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการดูแลสุขภาพอย่างรอบด้านในทุกช่วงวัย

​​​​​​​ ​​​​​​​