“สรเทพ โรจน์พจนารัช” ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ร้องรัฐบาลนายกฯ อนุทิน เร่งแก้ปัญหาธุรกิจ SMEs ที่เป็นนิติบุคคลเข้าไม่ถึงสิทธิโครงการคนละครึ่ง เสนอชุดมาตรการภาษี–สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ–กระตุ้นท่องเที่ยว หวังกู้เศรษฐกิจภายใน 4 เดือน
นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย กล่าวว่า อยากขอให้รัฐบาลนายกอนุทิน ออกมาตราการช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหารให้ครบทั่วถึงเพราะนโยบายคนละครึ่ง ร้านอาหารที่เป็น SMEs นิติบุคคลไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
“ภาคธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะร้านอาหารรายย่อยที่อยู่ในระบบเป็นนิติบุคคลและเสียภาษีมาโดยตลอด กลับไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งพิจารณาแนวทางสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น การใช้มาตรการภาษีซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณจากรัฐ”
นอกจากนี้ นายสรเทพ ได้ชูข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อช่วยเหลือ SMEs และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม ประกอบด้วย
1. เร่งเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า แม่ขาย และธุรกิจระดับรากหญ้า ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเริ่มใช้ 1 ตุลาคมนี้
2. เสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ให้บุคคลธรรมดาสามารถใช้ใบกำกับภาษีจากร้านอาหาร SMEs ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ในปี 2570 วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท อีกทั้งให้นิติบุคคลสามารถใช้ค่าใช้จ่ายจากงานเลี้ยง สัมมนา หรือรับรองในร้านอาหาร SMEs ไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท
3. ออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ดอกเบี้ยไม่เกิน 2.5% พร้อมให้ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) ค้ำประกัน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs ที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องกระแสเงินสดหมดจากสภาพเศรษฐกิจที่บอบช้ำมานานตั้งแต่โควิดจนถึงปัจจุบัน
4. แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี 2568 และระยะยาวในปี 2569 โดยมีการแจกเงินให้นักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านแอปคนละ 3,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในไทย เช่น ที่พักและร้านอาหาร ไกด์ บริษัทท่องเที่ยวในประเทศ
นอกจากนี้ อยากให้จัดทำแคมเปญสำหรับดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กระจายไปเมืองรอง “บินฟรีเมืองรอง” โดยให้สิทธิบินภายในประเทศฟรี 1 เที่ยวขาไป เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยสายการบินไทยและต่อเครื่องบินของการบินไทยหรือในเครือหรือกลุ่มสายการบินพาร์เนอร์
5. ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เรียกร้องให้ รัฐมนตรีท่านใหม่ กระทรวงพาณิชย์เร่งควบคุมราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ราคาหน้าฟาร์มตกต่ำ แต่ราคาขายปลีกกลับสูงผิดปกติ
6. ควบคุมราคาพลังงานช่วงไตรมาสสุดท้าย เสนอให้กระทรวงพลังงานดำเนินมาตรการเร่งด่วนในการควบคุมราคาค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและต้นทุนของภาคธุรกิจ
“นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่รัฐบาลต้องแสดงความกล้าหาญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ภายใน 4 เดือน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ SMEs ที่เป็นหัวใจของระบบเศรษฐกิจไทย”