กพท. เตรียมชงปรับค่าธรรมเนียมการเดินทางระหว่างประเทศจาก 15 เป็น 25 บาท พร้อมจัดเก็บเพิ่มอีก 3 ประเภท เสริมรายได้องค์กรรับต้นทุนความปลอดภัย ขณะที่ค่าธรรมเนียมสนามบิน (PSC) จ่อขึ้นสูงสุด 100 บาท เริ่มใช้ ต.ค. 68 ชี้ไทยยังเก็บต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
นายมนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า กพท. เตรียมเสนอแนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ต่อคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ภายในเดือนตุลาคม 2568 นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและมาตรฐานการบิน
สำหรับที่ผ่านมา กพท. สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้เพียงประเภทเดียว คือค่าธรรมเนียมการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในอัตราเพียง 15 บาทต่อคน ขณะที่ต้นทุนที่แท้จริงสูงถึง 23 บาท ทำให้รายได้ของ กพท. ลดลงต่อเนื่อง แม้จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กพท. เตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเป็น 25 บาทต่อคน พร้อมขยายการจัดเก็บครอบคลุมอีก 3 กลุ่ม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการบินขึ้นลงสนามบิน ค่าธรรมเนียมการส่งสินค้าทางอากาศ และค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งเดิมยังไม่เคยถูกจัดเก็บ
“รายได้ต่อปีของ กพท. อยู่ที่ราว 1,200 ล้านบาท แต่แนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ทั้งที่ต้นทุนด้านเทคนิคและความปลอดภัยยังคงสูง เราจึงต้องปรับเพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอปรับขึ้น Passenger Service Charges (PSC) หรือค่าธรรมเนียมสนามบิน โดยผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศจะถูกเก็บเพิ่มจาก 730 บาท เป็น 830 บาท และผู้โดยสารภายในประเทศจาก 130 บาท เป็น 230 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในเดือนตุลาคม 2568 โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ
ซึ่งจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในเดือนตุลาคม 2568 โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ
ทั้งนี้ กพท. ระบุว่าอัตรา PSC ของไทยยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ซึ่งเก็บที่ประมาณ 1,400 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน การปรับอัตราใหม่จึงมีความจำเป็นเพื่อสะท้อนต้นทุนจริง และสามารถนำรายได้กลับมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และความปลอดภัยของสนามบินไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล