น้ำเหนือมาแรง! เขื่อนภูมิพลใกล้ล้น กระทบเขื่อนเจ้าพระยา รัฐจับตา 2-3 วัน อาจเข้า กทม.
November 11, 2025 02:11 PM

น้ำเหนือมาแรง!  

เขื่อนภูมิพลใกล้ทะลักเต็มอ่าง กระทบเขื่อนเจ้าพระยา 

หน่วยงานรัฐจับตานาทีต่อนาที หวั่นกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำอยุธยา–อ่างทอง–สิงห์บุรี 

(10 พ.ย.68) ที่กระทรวงการคลัง นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์บริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยมีผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าร่วม ระบุว่า… 

ขณะนี้เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำถึง 99% ของความจุ มีน้ำไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร และปล่อยออกวันละ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องอีกไม่เกิน 3 วัน เขื่อนจะเต็มความจุ เมื่อเต็มความจุเขื่อนภูมิพลก็ระบายน้ำในปริมาณที่ควบคุมได้ยาก เป็นเหตุให้ทางเขื่อนต้องประเมินการระบายน้ำเพิ่มใน 2-3 วันที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการประเมิน  

โดยปริมาณน้ำจากเขื่อนภูมิพลจะไหลมาสมทบที่จังหวัดนครสวรรค์และเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนเจ้าพระยาขณะนี้มีการระบายน้ำที่ระดับ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอาจเพิ่มขึ้นเมื่อมวลน้ำจากเหนือมาถึง โดยจะบริหารให้น้ำไหลออกทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรม เพื่อบรรเทาผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชนให้ได้มากที่สุด ถ้าหากน้ำที่เขื่อนภูมิพลลงมาเติมจะทำให้การระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น หมายความว่าพื้นที่ใต้เขื่อนต้องได้รับผลกระทบมากขึ้น ตั้งแต่สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา จนมาถึงกรุงเทพฯ  

อย่างไรก็ดี ได้ประเมินสถานการณ์แล้วก็ทราบดีถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เลยหาแนวทางร่วมกัน ทางกรมชลประทานบอกว่า จะรับการระบายน้ำเข้าไปด้านตะวันตกและตะวันออกเพิ่มขึ้นแล้วเอาเข้าสู่ระบบชลประทาน อาจต้องระบายเข้าไปในทุ่งที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มเติมมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องแจ้งแดนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกษตรกรรม ว่าในช่วง 2-3 วันนี้ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจจะต้องระบายน้ำไปเก็บในทุ่งเพิ่มเติมมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ โดยการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลจะมีการประเมินสถานการณ์กันแบบวันต่อวัน ถ้าน้ำที่เข้าเขื่อนภูมิพลลดลงก็อาจจะไม่ต้องเพิ่ม 

สำหรับเขื่อนสิริกิติ์มีแนวโน้มลดการระบายน้ำจากวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งต้องคอยประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยชะลอมวลน้ำลงสู่ภาคกลาง  

ขณะเดียวกัน ปภ. ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท แล้วราว 70% และจะจ่ายครบ 100% ภายในวันที่ 24 พ.ย.68 นอกจากนี้ยังมีการชดเชยเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 30 วัน และ 60 วัน 

ส่วนผลกระทบในกรุงเทพมหานคร นายภราดร กล่าวว่า ณ วันที่ 10 พ.ย.68 บางพื้นที่อย่างนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เริ่มได้รับผลกระทบจากระดับน้ำสูงขึ้นแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่รุนแรงเท่าปี 2554 เพราะปีนั้นมีน้ำมากกว่านี้และเกิดอุบัติเหตุที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณของน้ำได้ ซึ่งปีนี้ยังไม่มีเหตุลักษณะนั้น 

ทั้งนี้ กรมอุทกศาสตร์ แจ้งว่าหลังเทศกาลลอยกระทง ปริมาณน้ำทะเลหนุนจะลดลง ทำให้สามารถระบายน้ำได้สะดวกขึ้น โดยรัฐบาลจะพยายามควบคุมการปล่อยน้ำไม่ให้เกินระดับ 2,800–3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเน้นระบายออกด้านตะวันตก–ตะวันออกเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อชุมชน 

รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 อีกครั้ง นายภราดร ทิ้งท้าย 

ขณะที่ เฟซบุ๊ก กรมชลประทาน โพสต์ อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา 10 พฤศจิกายน 2568 ⏰ เวลา 12.00 น. 

สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์  

ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,988 ลบ.ม./วินาที 

สถานี Ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี  

มีปริมาณน่ำไหลผ่าน 174  ลบ.ม./วินาที 

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี”  

เขื่อนเจ้าพระยา จะทยอยปรับเพิ่มการระบาย ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จากอัตรา 2,800 ลบ.ม./วิ เป็นอัตรา 2,900 ลบ.ม./วิ ภายในเวลา 02.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.68) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง 

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ 

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

คลองบางบาล , ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา,  ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ ,ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา, ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล, ตำบลบ้านโพ อำเภอบางปะอิน และตำบลประตูชัย อำเภอ พระนครศรีอยุธยา  

จังหวัดสิงห์บุรี 

วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี , อำเภอเมือง , อำเภอพรหมบุรี , วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี และตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี 

จังหวัดอ่างทอง  

คลองโผงเผง , อำเภอป่าโมก , ตำบลเทวราช อำเภอไชโย , ตำบลตลาดกรวด ตำบลย่านซื่อ ตำบลบ้านแห ตำบลจำปาหล่อ ตำบลมหาดไทย ตำบลโพสะ อำเภอเมือง, ตำบลบางจัก ตำบลสี่ร้อย ตำบลท่าช้าง ตำบลไผ่จำศีล ตำบลศาลเจ้าโรง อำเภอวิเศษชัยชาญ, ตำบลโพธิ์รังนก ตำบลบ่อแร่ ตำบลบางระกำ และตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง 

จังหวัดชัยนาท  

ตำบลโพธิ์นางดำออก , บ้านท่าทราย , ตำบลตลุก ตำบลหาดอาษา และตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา 

เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  และยกของขึ้นที่สูงกันด้วยนะคะ เพราะหากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ‘อีจัน’ เป็นห่วง 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.