(11 พ.ย.68) เวลา 09.00 น. รายงานจาก สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองขึ้น +950 บาท ทำให้ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 63,300 บาทต่อบาททองคำ ขายออกบาทละ 63,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ราคาทองคำรูปพรรณ รับซื้อบาท 62,034.72 บาท และขายออกบาทละ 64,200 บาท
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) เผยสรุปภาพรวมราคาทองคำพุ่งแรงกว่า 2% ทะลุ 4,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ การพุ่งขึ้นนี้มีสาเหตุหลักมาจากความหวังเรื่องการใช้จ่ายและลดหย่อนภาษีของรัฐบาล (Fiscal Stimulus) เช่น แนวคิดการแจกเงิน 2,000 ดอลลาร์ต่อคน จากภาษีศุลกากร ถือเป็นการกระตุ้นทางการคลังครั้งใหญ่
นอกจากนี้ การเสนอให้ยุติภาวะรัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ (Government Shutdown) ก็หนุนราคาทอง เนื่องจากจะนำไปสู่การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์จึงมองว่าทองคำกลับมาเป็นทางเลือกสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและความไม่แน่นอนของนโยบายราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 110.0 เหรียญ หรือ 2.75% ที่ระดับ 4,115.0 เหรียญราคาทองคำตลาดโลก ปิดปรับตัวขึ้น 110.0 เหรียญ หรือ 2.75% ที่ระดับ 4,115.0 เหรียญ ขณะที่เช้าขยับขึ้นมาที่ 4,140 เหรียญ
กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,042.06 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 1.71 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 168.68 ตัน
นักวิเคราะห์จากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้นักลงทุนมีมุมมองบวกมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. พร้อมกับให้กรอบเป้าหมายราคาทองคำในช่วงสิ้นปีนี้ที่ระดับ 4,200 – 4,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองมีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569
