‘ไอเอ็มเอฟ’ ห่วงเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบ หลังประเมินจีดีพีปีนี้โต 2.1% ส่วนปี 2569 โตแผ่วเหลือ 1.6% พร้อมแนะรัฐบาลใช้นโยบายการคลังแบบเฉพาะจุด-ระมัดระวัง หนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเงินเฟ้อ!
14 พ.ย. 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เผยแพร่ผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทย ประจำปี 2568 โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ ในครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3% ซึ่งดีกว่าที่ IMF ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี คาดว่าในภาพรวมทั้งปี 2568 เศรษฐกิจจะขยายตัวชะลอลงเหลือ 2.1% และในปี 2569 ที่ 1.6% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
สำหรับอัตราเงินเฟ้อ IMF คาดว่าจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่อง และทยอยปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1 – 3% ได้ภายในปี 2570 ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบอยู่
ทั้งนี้ ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและขีดความสามารถของนโยบายที่จำกัด โดย IMF แนะนำให้ทางการไทย ดำเนินนโยบายแบบผสมผสานอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งในช่วงที่หนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรใช้นโยบายการคลังแบบเฉพาะจุดและระมัดระวัง พร้อมกับมีแผนการเข้าสู่สมดุลการคลังระยะปานกลาง (medium-term consolidation strategy) ที่น่าเชื่อถือ ส่วนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และอาจผ่อนคลายได้เพิ่มเติมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านอุปสงค์และเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน ด้วยหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรเร่งฟื้นฟูช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อ ผ่านมาตรการทางการเงินที่ช่วยลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้ เช่น มาตรการเฉพาะกิจล่าสุดในการช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อให้การส่งผ่านนโยบายการเงินมีประสิทธิผลต่อเนื่อง
“ในการนี้ ทางการไทยชี้แจงว่าได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงวินัยทางการคลังและความยั่งยืนของการดำเนินนโยบาย โดยที่ผ่านมา ทางการไทยได้ออกมาตรการและมีโครงการใหม่ ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในหลายมิติ ซึ่ง IMF มองว่าควรต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ไทยจะเติบโตในอัตราที่ต่ำลง และต้องทำควบคู่ไปกับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มผลิตภาพและยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วย”
นอกจากนี้ ทางการไทยได้รับฟังและให้ความเห็นต่อผลการประเมินเบื้องต้นของ IMF แล้ว โดยเห็นสอดคล้องกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะความท้าทายในการดำเนินนโยบายที่ต้องรอบคอบและรัดกุม ภายใต้ขีดความสามารถทางนโยบายที่มีอยู่ และความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งความจำเป็นในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน