“เซ็นทารา” ไม่หวั่นหลากปัจจัยลบ เดินหน้าขยายฐานรับบริหารโรงแรม-เปิดโรงแรมใหม่ ปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับทิศทางตลาด เผยปีหน้าเปิดเพิ่มอีก 6 แห่ง ทั้งเนปาล เวียดนาม ญี่ปุ่น และมองหาโอกาสใหม่ในจีน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ย้ำผู้นำอุตฯท่องเที่ยวยั่งยืน

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราเปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมในปี 2568 นี้ยังมีปัจจัยหลายปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน ผลกระทบจากแผ่นดินไหว ผลกระทบจากนโยบายภาษี ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการแข็งค่าของเงินบาท

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยบริษัทได้ติดตามสถานการณ์และปรับกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดให้เหมาะสมกับทิศทางตลาดและมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ

“เราคาดการณ์ว่าในภาพรวมของปีนี้เราน่าจะสามารถทำรายได้ได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 7-8% ซึ่งจากตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเราก็ยังเติบโตได้ประมาณ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง มีอัตราการจองล่วงหน้าเข้ามาอยู่ในระดับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้คาดว่าตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) เฉลี่ยทั้งปีเติบโตที่ประมาณ 5% จากปีที่แล้ว” นายธีระยุทธกล่าว

โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานด้วยความระมัดระวัง โดยการปรับกลยุทธ์ทางการขายและตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง การติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังคงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ เพื่อสร้างความเติบโตในอนาคต ด้วยการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนที่เหมาะสมจากการกู้ยืมเงินสถาบันการเงิน และการออกตราสารหนี้ตามภาวะตลาดการเงิน

“ประเด็นหลักที่ทำให้เรายังมีตัวเลขที่ดีคือ เรารู้ว่าควรมุ่งโฟกัสตลาดไหน เช่น ในไตรมาส 4 ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดยุโรป หรือตลาดอินเดียก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เป็นต้น ส่วนตลาดจีนซึ่งยังชะลอตัวอยู่กว่า 30% นั้น หากฟื้นกลับมาได้ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่จะเติมเข้ามาจากคาดการณ์ การโฟกัสตลาดอย่างใกล้ชิดทำให้ค่าเฉลี่ยทั้งปีเรายังสามารถโตได้”

สำหรับปี 2569 นั้นบริษัทยังคงมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างการเติบโต โดยมีแผนเปิดให้บริการในรูปแบบรับบริหาร (Management Hotel) อีก 6 แห่ง อาทิ เนปาล เวียดนาม ฯลฯ รวมถึงโอซากา (ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบร่วมลงทุน (Joint Venture) นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง เช่น ในจีน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น

นายธีระยุทธกล่าวด้วยว่า นอกจากแผนธุรกิจแล้ว บริษัทยังเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจหลักของเซ็นทาราในการมอบประสบการณ์การบริการแบบไทยที่ผสานนวัตกรรม ความอบอุ่นแบบครอบครัว และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคมด้วยกันอย่างสมดุล