Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินฝั่งยุโรป เปิดเผยว่า เครื่องบินตระกูล A320 ที่ถูกเรียกคืนเพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์ราว 6,000 ลำ ขณะนี้ “เกือบทั้งหมด” ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว หลังสายการบินทั่วโลกเร่งดำเนินการอัพเดตตามคำสั่งด่วนที่ออกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพบช่องโหว่ซอฟต์แวร์จากกรณีเที่ยวบิน JetBlue A320 ซึ่งตรวจพบความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับคลื่นพลังงานจากดวงอาทิตย์ (Solar Flares) ทำให้แอร์บัสออกเอกสารแจ้งเตือน 8 หน้า บังคับให้สายการบินต้องแก้ไขก่อนนำเครื่องขึ้นบินอีกครั้ง ส่งผลให้เครื่องบินจำนวนมากถูกเรียกตรวจแบบกะทันหันในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐ
แอร์บัสระบุว่า เหลือเครื่องบินไม่ถึง 100 ลำที่ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ขณะที่ Avianca สายการบินของโคลอมเบียยังคงหยุดรับจองจนถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2025 เนื่องจากบางลำต้องใช้เวลาซ่อมนานกว่าเครื่องรุ่นใหม่
ในช่วงแรก สายการบินหลายแห่งประเมินผลกระทบได้ยาก เพราะคำสั่งแอร์บัสไม่ได้ระบุหมายเลขเครื่องที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ต้องใช้เวลาตรวจสอบแบบลำต่อลำ โดยบางเที่ยวบิน เช่น ของ Finnair สร้างความล่าช้าบนลานจอด ก่อนจะยืนยันได้ว่าไม่เข้าข่ายผิดปกติ
วิศวกรระบุว่า การแก้ไขคือการย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นก่อนหน้า โดยใช้เครื่องมือ “Data Loader” เชื่อมเข้ากับระบบในห้องนักบิน มีสายการบินบางแห่งประสบปัญหาล่าช้าเพราะมีอุปกรณ์ไม่พอสำหรับอัพเดตเครื่องจำนวนมากในเวลาอันจำกัด
แม้หลายสายการบิน เช่น easyJet และ Wizz Air แจ้งว่าสามารถอัพเดตฝูงบินเสร็จสิ้นแล้วโดยไม่ต้องยกเลิกเที่ยวบิน โดยเฉพาะ JetBlue ระบุว่าจะนำเครื่อง 137 จาก 150 ลำกลับเข้าบริการภายในวันจันทร์ แต่ต้องยกเลิกเที่ยวบินราว 20 เที่ยว
เนื่องจากมีเครื่องรุ่นเก่าบางส่วนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนคอมพิวเตอร์และรีเซตซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งหมด อีกทั้งฮาร์ดแวร์ก็ถูกเปลี่ยน ในช่วง 1,000 ลำแรก
เหตุการณ์ครั้งนี้จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แอร์บัสต้องรับมือกระแสความกังวลด้านความปลอดภัยในวงกว้าง หลังจากที่อุตสาหกรรมการบินเปลี่ยนแนวทางสื่อสาร นับตั้งแต่วิกฤต Boeing 737 MAX ที่โบอิ้งถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความล่าช้าและความไม่โปร่งใส
กีย์โยม โฟรี ซีอีโอของแอร์บัส ออกมาขอโทษต่อสาธารณะ โดยมีความตั้งใจหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดแบบเดียวกันกับโบอิ้งในอดีต
ขณะนี้ราคาหุ้นแอร์บัสลดลง 2.1% ในการซื้อขายช่วงเช้าที่ปารีส ขณะที่สายการบินต่าง ๆ เริ่มทยอยกลับมาบินตามปกติเมื่อการแก้ไขใกล้เสร็จสมบูรณ์