รูมเควสท์เปิดประสบการณ์ใหม่ รุกบริหารโรงแรมด้วย AI รายแรกของโลก
GH News December 02, 2025 09:20 AM

เครือโรงแรม “รูมเควสท์” ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารในเครือทั้ง 52 แห่ง ด้วยระบบการจัดการโรงแรมด้วย AI Automation รายแรกของโลก หวังเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจโรงแรมไปทั่วโลก เตรียมเปิดตัวที่มาเลเซียในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พร้อมเจรจาพันธมิตรเปิดตลาดในดูไบ สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้

นายพีรวัส หาญศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รูมเควสท์ จำกัด (RoomQuest) บริษัทบริหารโรงแรมสัญชาติไทยภายใต้แบรนด์ “รูมเควสท์” เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับออบเซียน เทคโนโลจีส์ (Opsian Technologies) พัฒนาระบบบริหารจัดการโรงแรมด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI Automation) ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจโรงแรม

พีรวัส หาญศิริกุล
พีรวัส หาญศิริกุล

โดยรูมเควสท์เป็นเครือโรงแรมแห่งแรกของโลกที่นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติแบบบูรณาการมาใช้ในทุกส่วนของการดำเนินงานโรงแรมในเครือทั้งหมด 52 สาขาทั่วประเทศ โดยระยะแรกเริ่มใช้ในบางส่วนของธุรกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 และคาดว่าจะพร้อมใช้เต็มรูปแบบครบทุกโรงแรมในเครือในเดือนเมษายน 2569

Room Quest

“เรามีความเชื่อที่ว่าเอไอควรเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรม ทั้งในเรื่องการช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และช่วยให้ทีมงานสามารถมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขกผู้เข้าพักอย่างเต็มที่ กลยุทธ์ของเขาเน้นการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การออกแบบระบบที่ช่วยขยายธุรกิจได้ ตลอดจนการขยายแบรนด์ในระยะยาว”

ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าโรงแรมพันธมิตรจะได้รับประโยชน์ ไม่เพียงแต่จากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สูงขึ้นในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมอบความคล่องตัวในระยะยาว ภายใต้ภูมิทัศน์ของธุรกิจการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

Room Quest

“เอไอช่วยให้เราทำงานได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น และหากเราลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและใช้ข้อมูลเป็นแนวทางหลักในการตัดสินใจ อุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้นมาก เป้าหมายของเราไม่เพียงต้องการพลิกโฉมโรงแรมของเราเองเท่านั้น แต่เรายังพร้อมช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทย ตลอดจนระบบเศรษฐกิจไทยในภาพรวมด้วย โดยเอไอจะช่วยให้เราสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทว่ายังคงรักษากำลังคนเท่าเดิมเอาไว้ ทำให้การเติบโตของธุรกิจมีความยั่งยืนมากขึ้น”

นายพีรวัสกล่าวว่า ปัจจุบันรูมเควสท์มีโรงแรมในเครือทั้งหมดรวม 52 แห่ง กระจายอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ทั่วประเทศไทย อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา (ชลบุรี) เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย (สุราษฎร์ธานี) เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังพร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกับเจ้าของโรงแรมที่ต้องการยกระดับการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยียุคใหม่ โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักเดินทาง พร้อมกับมีส่วนร่วมในการช่วยสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย

Room Quest

โดยล่าสุดบริษัทได้จับมือพันธมิตรในมาเลเซีย เพื่อบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์ “รูมเควสท์” ขนาดประมาณ 300 ห้อง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในดูไบ (UAE) และในเมืองอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ ฯลฯ เพื่อเข้าบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์ “รูมเควสท์” เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ “อีหลง” (Elong) แบรนด์โรงแรมอันดับ 2 ของจีน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญเชิงกลยุทธ์ในการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ด้วยการผสานรวมโดยตรงกับระบบนิเวศของ WeChat โดยวางตำแหน่งตนเองเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทยกลุ่มแรก ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงธุรกิจบริการในท้องถิ่นเข้ากับความต้องการด้านการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่ของจีน

“เราอยู่ในธุรกิจโรงแรมในไทยมา 8 ปี อยากนำแบรนด์ไทยออกไปสู่ตลาดโลกบ้าง โดยในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน เราจะให้ความสำคัญกับการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง การปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด ตลอดจนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนและต่อเนื่องทั่วโลก” นายพีรวัสกล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.