"รมว.ยุติธรรม" เปิดงาน มหกรรมแก้หนี้ครัวเรือนฯ ยธ.ช่วยลูกหนี้ไม่ให้ถูกฟ้องคดีกว่า 6.6หมื่นราย
GH News December 21, 2024 09:09 PM

วันที่ 21 ธ.ค.67 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมเกียรติ 80 พรรษา กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 โดยกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสถาบันการเงินชั้นนำกว่า 30 แห่ง เปิดเวทีใหญ่ผ่อนคลายหนี้ให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แก่ลูกหนี้

สำหรับภายในงานมีการเปิดให้ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมแก้ไขหนี้สิน การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง และไกล่เกลี่ยหลังศาลมีคำพิพากษา พร้อมเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพากษาภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน

พ.ต.อ.ทวี  กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดงาน ว่า ความความผาสุกของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนและรัฐบาลมีความปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง โดยขณะนี้ประชาชนมีปัญหาหนี้สินหรือที่เรียกว่า “หนี้สินเรื้อรัง” และ “หนี้สินยั่งยืน” เป็นการส่งมอบมรดกของความยากจนจากรุ่นสู่รุ่น จนนำไปสู่ความขัดแย้ง และสร้างความเดือดร้อน สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แม้ประชาชนที่เป็นหนี้จะดิ้นรนขยันขันแข็ง แต่เงินที่ได้รับกลับไม่เพียงพอกับการใช้หนี้ และค่าของชีพที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจนทำให้หนี้เก่าก็ไม่ได้ใช้ชำระและทำให้ขาดการชำระหนี้ก็จะเกิดดอกเบี้ยและการเกิดเบี้ยปรับ อีกทั้งเงินที่ชำระไปก็จะเอาไปชำระดอกเบี้ยปรับ และเงินที่ชำระไปนั้นก็จะไม่ถึงเงินต้น ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ จึงเรียกว่าเป็นหนี้ที่เรื้อรัง และลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล หากปล่อยไว้ก็จะนำไปสู่ภาวะการถูกดำเนินคดี และบังคับคดี

“หนี้สินที่เรื้อรัง ส่งต่อในรูปแบบมรดกจากรุ่นสู่รุ่นจนนำไปสู่ความเดือดร้อน สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีหนี้สินที่คำพิพากษาในคดีแพ่งอยู่ที่กรมบังคับคดีล่าสุด (เดือน ธ.ค. 67) เพียงส่วนเดียว มูลค่ารวมมากกว่า 19 ล้านล้านบาท หรือประมาณกว่าร้อยละ 104 ของ GDP ของประเทศ จึงนับเป็นหนึ่งในความท้าทายของรัฐบาล ที่จะต้องสร้างความหวัง โอกาส และสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านนโยบายเร่งด่วนด้วยการแก้หนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาที่กระทบกับความมั่นคงของสังคม

และในขณะเดียวกันกระทรวงยุติธรรมยังร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางจัดทำสัญญาช่วยในการไกล่เกลี่ย แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมไปถึงหนี้ กยศ. ให้กับประชาชนเพิ่มเติมให้ครอบคลุมในทุกมิติด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อปัญหาหนี้ได้รับการแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมในประเทศจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ประกาศนโยบายว่า เรื่องหนี้เป็นความท้าทาย โดยความท้าทายของรัฐบาล คือ จะต้องสร้างความหวัง สร้างโอกาส และสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลประกาศไว้ คือ การแก้หนี้ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการผลักดันให้ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในระบบ และลูกหนี้นอกระบบ ภายใต้ปรัชญาวินัยการเงินการคลังที่ไม่ให้เกิดภาวะทางจริยธรรม และเรื่องหนี้เป็นเรื่องที่หลักสิทธิมนุษยชนได้คุ้มครองไว้ ที่บุคคลธรรมดาจะต้องไม่รับโทษทางอาญาในเรื่องของการชำระหนี้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ได้เสนอยกเลิกความผิดเช็ค ที่เป็นโทษทางอาญา

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าเชื่อมั่นว่า เมื่อได้ดำเนินการแก้หนี้ อะไรที่ไม่เป็นธรรม ก็จะนำไปสู่กระบวนการการแก้กฎหมาย และหวังว่าหนทางนี้จะปลดโซ่ตรวนความทุกข์ของประชาชน และสร้างความสุข ความเจริญ และศักยภาพของคนไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดสังคมโลก และมีความผาสุกอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนตลอดปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี ได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ทั้ง 76 จังหวัด รวมทั้งสิ้นจำนวน 89 ครั้ง โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกฟ้องคดีต่อศาลใดจำนวน 66,172 ราย มูลค่ารวมกว่า 11,217 ล้านบาท ช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์ จำนวน 66,131 ราย โทรศัพท์รวมกว่า 12,684 ล้านบาท ปลดผู้ค้ำประกันกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 124,289 ราย และการปรับคำนวณยอดหนี้ กยศ. ใหม่ กว่า 3.65 ล้านบัญชี แล้วเสร็จ มีผู้กู้ 2.98 ล้านรายได้ประโยชน์ ยอดหนี้ลดลงกว่า 56,326 ล้านบาท ปลดภาระผู้ค้ำได้กว่า 2.8 ล้านราย

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนและร่วมกิจกรรม มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ได้จนถึงวันที่ 22 ธ.ค. 67 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ และหลังจากนี้จะมีการกำหนดการจัดมหกรรมแก้หนี้ฯ ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอดปี 2568 ต่อไป


 

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.