‘บิ๊กอุ้ม’ รับลูกนายกมาตรการปราบบุหรี่ไฟฟ้า เร่งดันอำนาจครูตรวจยึดแทนตำรวจ
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่น.ส.แพรทองธร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งใหเหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามและติดตามแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังระบาดว่า ในส่วนของศธ. ได้กำชับให้สถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งเข้มเรื่องมาตรการบุหรี่ไฟฟ้า โดยจะต้องสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาทุกมิติ ขณะเดียวกันการกวดขันร้านค้าภายนอกรอบบริเวณโรงเรียได้ให้มีการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ให้มาตรวจสอบร้านค้าว่ามีการขายของที่ผิดกฎหมายและเหมาะสมต่อนักเรียนหรือไม่ อีกทั้งที่ผ่านมาศธ.ได้ทำหนังสือแจ้งกำชับไปยังสถานศึกษาทุกแห่งให้กวดขันเรื่องนี้อย่างจริงจังและให้ถือว่ามีโทษความผิด หากเด็กมีบุหรี่ไฟฟ้าครอบครองไว้ในสถานศึกษา
“ขณะนี้ศธ.กำลังรอกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ในการปรับแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพราะมีช่องทางที่สามารถแก้ไขระเบียบข้อบังคับตามประกาศ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 โดยสามารถให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือครูฝ่ายปกครองที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้ ตามข้อกฎหมายของพณ.ซึ่งจะดำเนินการเฉพาะภายในขอบเขตของสถานศึกษาเพียงอย่างเดียว” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนทำได้เพียงกวดขันและตักเตือนเท่านั้น หากครูจะเข้าไปยึดก็อาจมีความผิดทางกฎหมายได้ ขณะนี้จึงต้องรอพณ.ดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จ และเชื่อว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าภายในโรงเรียนมีมากขึ้น เนื่องจากศธ.ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในโรงเรียน เพราะอาจเป็นเรื่องที่เกินความจำเป็นมากเกินไป ซึ่งหากเป็นอำนาจของครูในการตรวจยึดสิ่งของเหล่านี้ได้ก็จะถือเป็นภาพปกติธุระของครูในการทำงานฝ่ายปกครอง
