ลูกจ้างสาว ตีหมาชิวาว่า แฉ “แม่พระวงการแบรนด์เนม” รักสัตว์แต่ทารุณคน ฟังแล้วจุกหนัก เหยื่อทนทำงานนาน 5 ปี เจอหวายเฆี่ยนเกือบ 100 ครั้ง แถมไม่จ่ายเงินเดือน สุดท้ายหนีเอาชีวิตรอดถูกตำรวจตามจับหลังนายจ้างแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ขโมยทอง
ประเด็นร้อนสุดๆ จากกรณี น.ส.บี อายุ 22 ปี เหยื่อซึ่งเป็นลูกจ้างมาขอความช่วยเหลือ กัน จอมพลัง หลังถูกเจ้านายใช้ไม้หวายและไม้ไผ่ฟาดทารุณเป็นประจำ บางวันโดนสั่งให้ถอดเสื้อแล้วฟาด 98 ครั้ง ในคลิปน้องร้องโหยหวนน่าสงสาร บางวันถูกเอาน้ำแกงสาดหน้า ชกหน้าและหัวต่อเกือบ 30 ครั้ง และยังมีอีกสารพัดวิธีทำร้ายต่างๆ นานา จนลูกจ้างต้องหนีออกจากบ้าน
แต่หลังจากหนีแค่ 4 วัน ปรากฏโดนหมายจับข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง โดยนายจ้างเอาคลิปที่เห็นลูกจ้างหยิบของแต่ไม่เห็นว่าหยิบอะไรไปแจ้งความ ถามเหยื่อได้คำตอบว่า เป็นบัตรประชาชนที่หยิบไป แถมอ้างว่านายจ้างเคยพูดกับเหยื่อว่าสนิทกับตำรวจที่ สภ. บางกรวย
ต่อมาเหยื่อลูกจ้างสาวกลัวจึงมาหากันจอมพลังช่วยพามอบตัว ประสานไปที่โรงพักท้องที่ แต่ตำรวจไม่สนไล่ตามจับลูกจ้าง แต่ไม่พบสิ่งของตามที่นายจ้างแจ้ง ถึงตรงนี้จึงต้องนำเรื่องมาตีแผ่ในรายการโหนกระแสอีกหนึ่งช่องทาง โดยเริ่มมาในรายการ น.ส.บี ซึ่งมาชี้แจงรายละเอียดต่อหน้า ต่าย นายจ้างที่เป็นคู่กรณี
โดยเริ่มเล่าถึงสาเหตุที่รู้จักและได้มาทำงานเนื่องจากนายจ้างเดินทางขึ้นมาหาเด็กที่จ.ตาก เพื่อกลับไปทำงานแถวบ้าน ก่อนหน้านี้หลานสาวเคยมาทำงานที่นี่เกือบปีแล้วกลับบ้าน เหยื่อจึงได้โอกาสมาทำหน้าที่ ซึ่งเริ่มทำงานตอนอายุ 17 ปี ตั้งแต่ปี 63 ปัจจุบันทำงานที่บ้านหลังนี้มานาน 5 ปี บ้านหลังที่อยู่มีกัน 5 คน นายจ้าง, คนขับรถ, เพื่อนที่ทำงาน (แบม), เพื่อนสาวใช้ด้วยกัน (แพรว) และตัวเธอ มีสุนัขทั้งหมด 4 ตัว
ตอนแรกเลี้ยงดูดีเหมือนลูก ตกลงว่า 6 เดือนแรกให้เงินเดิน 6,000 บาท จากนั้นจะขึ้นเป็น 9,000 ต่อเดือน แต่ปัญหาเริ่มาเกิดตอนที่ผ่านหกเดือนเสร็จ ฝั่งลูกจ้างบอกว่าไม่ได้รับเงินเดือนอีกเลย โดยนายจ้างอ้างว่าจะเก็บเงินเดือนทั้งหมดไว้ให้เวลากลับบ้านได้มีเงินก้อน 200,000 บาทแต่ไม่เคยแจงรายละเอียดใด
บางเดือนมีเบิก 100-200 บ. ซื้อของกินสบู่อาบน้ำ และย้ายชื่อของเหยื่อมาอยู่ในทะเบียนบ้าน อ้างเหตุผลจะให้ได้เรียนหนังสือ
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่าสาเหตุหลักที่ถูกตีเนื่องมาจากอะไร เหยื่อตอบสาเหตุที่ถูกทำร้ายส่วนใหญ่นั้น! มาจากนายจ้างมักอ้างว่าสาวใช้เป็นต้นเหตุให้เพื่อนร่วมงานทำงานบ้านไม่เสร็จ รวมถึงเรื่องวางข้าวให้สุนัขแล้วไม่ยอมกินจึงมีตีศีรษะ ถ้าเฆี่ยนจะใช้ไม้ตีส่วนหลังใต้ร่มผ้า เริ่มตีตั้งแต่ต.ค.67 ถึงปัจจุบัน โดนทำร้ายไม่ได้ทุกวัน แต่ก็บ่อยครั้ง สัปดาห์หนึ่ง 3-4 เที่ยว
ในรายการเปิดภาพร่องรอยที่ น.ส.บี สาวใช้ถูกเฆี่ยนตีจนเป็นรอยตามตัว โดยอาวุธที่หญิงนายจ้างใช้เป็นประจำ คือ “กระบี่หวาย” ที่เด็กนร.ใช้เรียนวิชากระบี่กระบอง สั่งจากแอปออนไลน์มาไว้ตีและจะซัดจนหักแล้วสั่งอันใหม่มาแทนเพื่อใช้ทารุณไม่จบสิ้น
มุมนายจ้างยันรักเหมือนลูก สั่งสอนเหตุทำงานไม่ดี ขี้เกียจเล่นแต่มือถือ แถมทำร้ายสุนัขในรายการ ต่าย เปิดหน้าชี้แจงโดยมุมนายจ้างอ้างว่าไม่ได้สั่ง “ไม้หวาย” มาตีผู้เสียหายตามที่มีการกล่าวหา ไม้ที่อ้างถึงนั้นจริงๆ ก็สั่งมาใช้ปักต้นไม้ ส่วนที่มีคลิปตีลูกจ้างนั้นเป็นเพราะอีกฝ่ายคนเสนอเองว่าให้เลือกมาว่าจะให้เราลงโทษแบบไหน บอกให้เราตีแล้วเป็นคนไปหยิบไม้มาให้ตีเองด้วย
เรื่องเงินเดือนให้ทั้งโทรศัพท์และบัญชี เมื่อถามว่ามีหลัหกฐานไหม อนายจ้างบอกว่าน้องเแป็นพยานไได้ จะใช้จ่ายเท่าำไหร่เบิกได้ด้วยตัวเอง เพราะถือโทมรศัพท์ที่มีแอพฯ ธนาคารในนั้นและยังมีเงินสดที่ให้ไว้จ่ายประจำวัน ไม่ได้เข้าบัญชีบริษัทของนายจ้าง แต่ลูกจ้างสามารถถอนได้เป็นบัญชีบุคคลของคนขับรถ แต่เมื่อถามทำไมไม่โอนเข้าบัญชีลูกจ้างโดยตรง อีกฝ่ายอ้างมีหลักฐานแต่ไม่ขอเปิดเผยตอนนี้
นอกจากนี้นายจ้างยืนยันว่าเลี้ยงดูลูกจ้างเหมือนเป็นลูก ให้อยู่ในบ้านให้นอนด้วยกันอยู่ห้องแอร์-กินอาหารร่วมโต๊ะ ส่า่วนที่สั่งสอนเพราะมีพฤติกรรมที่ไม่ดี
เมื่อ กัน จอมพลัง ถามกลับที่นายจ้างบอกรักเหมือนลูก แล้วเคยตีลูกหรือตีสุนัขแบบที่ตีลูกจ้างหรือเปล่า?
ต่ายตอบว่า “ไม่เคย” ขณะที่ประเด็นเรื่องสุนัขชิวาว่า หลังสุนัขป่วยต้องทำกายภาพบำบัด ปรากฏพอมาดูกล้องวงจรปิดพบลูกจ้างเอาแต่เล่นโทรศัพท์ ไม่ได้ทำกายภาพบำบัดให้สุนัข ซึ่งยืนยันได้ว่าลูกจ้างมีโทรศัพท์ใช้ตลอดเวลา ไม่ได้ถูกยึดตามที่ลูกจ้างบอก โดยเชื่อว่าลูกจ้างตีหมาจับได้ตั้งแต่ปี 2564 ไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ตอนนั้น
ช่วงหนึ่งมีการถามนายจ้าง ถ้าเห็นสาวใช้ไม่รักสัตว์ ทำร้ายสุนัขต่างๆ นาน ทำไมยังให้มาทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งเรื่องนี้ ต่ายสรุปสั้นๆ ว่า เพราะเธอ “ให้โอกาสค่ะ”
“ไม่ใช่แม่พระหรอกนะคะ แต่เราเห็นว่าอายุเขายังไม่เยอะ ยังอยากให้เขาศึกษาเล่าเรียนได้อยู่ เจ้าพนักงานก็บอกว่าให้เด็กมันติดคุกไปเถอะ แต่ต่ายก็ยังถามว่า มีทางไหนไหม ที่จะพูดให้เด็กมันเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลับมาตั้งใจศึกษา”
ถึงตรงนี้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย กล่าวถึงความคืบหน้าขอคดี ตอนนี้มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนทั้งวงจรปิดในที่เกิดเหตุและเห็นผู้เสียหายกำลังหยิบของบริเวณที่นายจ้างอ้างว่าเก็บทรัพย์สินไว้ จากนั้นผู้เสียหายก็หนีออกจากบ้านไป ทำให้เป็นเหตุอันควรสงสัยให้ไปขอศาลออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์นายจ้างได้ แม้จะเห็นภาพทรัพย์สินไม่ชัด
ส่วนกรณีที่จับกุมผู้เสียหาย ไม่ใช่ตำรวจของ สภ.บางกรวยไปจับ เป็นตำรวจหน่วยอื่นที่จับกุมตามหมายจับที่ปรากฎในระบบ และไม่ได้มีการไปค้นห้อง ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน สภ.บางกรวยกำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเส้นทางหลังเกิดเหตุ และค้นหาทองที่หายไป
ผกก.สภ.บางกรวยยังยืนยัน ตำรวจไม่ได้รู้จักกับนายจ้างเป็นการส่วนตัว ซึ่งนายจ้างอาจเคยมาแจ้งความบ้างแต่เป็นการมาพบตามปกติและไม่พบว่ามีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวใดๆ.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
