ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง ตรวจยึดเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสื่อลามก พร้อมจับกุมร้านเกมชื่อดังผู้ติดตามนับแสน
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย และความผิดซึ่งหน้า 4 ราย ในความผิดประเภทต่างๆ พร้อมของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด, เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น, ตู้คีบตุ๊กตา 15 ตู้, ตุ๊กตาของกลาง 255 ชิ้น, บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 20 ชุด และอาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก
ตำรวจไซเบอร์ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จำนวนกว่า 100 นาย เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 28 ก.พ.68 เวลา 06.00 น. บริเวณหน้า บช.สอท. โดยเน้นการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจไซเบอร์ 1 ทุกกองกำกับการ ร่วมสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขในโลกออนไลน์ที่มอมเมาประชาชน จากปฏิบัติการดังกล่าวมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
1.จับกุมร้านเกมชื่อดัง ผู้ติดตามนับแสนราย รับจ้างแฮกเครื่องเกม เพื่อติดตั้งเกมเถื่อน พร้อมพ่วงโปรแกรมรับชมสื่อลามกออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.3 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.3 บก.สอท.1 ได้ร่วมทำการสืบสวนเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง ทราบว่ามีการจัดจำหน่ายและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสื่อลามกอนาจาร, เกมลามกอนาจาร และดัดแปลงเครื่องเล่นเกมเพื่อรับชมสื่อลามก อนาจาร และยังมีการรับจ้างแฮกเครื่องเกมเพื่อติดตั้งเกมเถื่อนอีกด้วย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยังผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง นำมาสู่การขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ
ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม.และ จ.นนทบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 3 จุด และบริษัทรับฝากเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ น.ส.สุพิชฌาย์ และนายปรีติ ในความผิดฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้ แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก
ทั้งนี้ได้ตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ คอมพิวเตอร์ 13 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพกพา (NOTEBOOK) 1 เครื่อง, เครื่องเกม NINTENDO SWITCH 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต 4 เครื่อง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 11 รายการ และสมุดบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย 1 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.จับกุมหนุ่มระยองโชว์เก๋าลั่นปืนขึ้นฟ้าหน้าบ้าน โพสต์อวดปืนลงโซเชียลแถมลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ พบประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้ว 8 ครั้ง คดีนี้ พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่านายวัชระมีพฤติกรรมลักลอบทำอาวุธปืน ดัดแปลงสภาพอาวุธปืน แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และยังมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นนำมาฝากขายอยู่ด้วย และทราบอีกว่า นายวัชระมีพฤติการณ์ชอบยิงปืนที่หน้าบ้านตนเองอยู่เป็นประจำจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบประวัติของนายวัชระ พบว่ามีประวัติเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวน 8 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น ต่อศาลจังหวัดระยอง
ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา เวลาประมาณ 07.30 น. ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ซอยทางเข้าเรือนจำ ถนนจันทอุดม ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อไปถึงพบนายวัชระ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ ดังนี้ อาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด, อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองยาวขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด และกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายวัชระว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3.ตรวจค้นโกดังสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพเลี่ยงภาษี ของกลาง 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท โดย พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้ร่วมกันสืบสวนพบการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยมิได้มีการชำระภาษีอากร โดยถูกซุกซ่อนไว้บริเวณโกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 70 แยก 6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และโกดังสินค้าแห่งหนึ่งภายในซอยสินสมบูรณ์ แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้น
ต่อมาวันที่ 27 ก.พ.68 ตำรวจ กก.1 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังทั้ง 2 แห่งพบสินค้า ประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สอบถามถึงเอกสารหลักฐานการได้มาซึ่งสินค้า และเอกสาร เกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า ปรากฏว่าเจ้าของสินค้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมด 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2,600,000 บาท ทั้งนี้เจ้าของสินค้าดังกล่าวต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า มาแสดงภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ตรวจค้น โดยตำรวจไซเบอร์ได้นำสินค้าที่ตรวจยึดเอามาเก็บรักษาไว้ที่ กก.1 บก.สอท.1 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป