“ภูมิธรรม” ตั้งโต๊ะแถลง ส่งอุยกูร์กลับจีน ย้ำสมัครใจ-ไร้บังคับ ยึดกฎหมายสากล และ พรบ.อุ้มหาย พร้อมเช็คความปลอดภัยเป็นอยู่เป็นระยะ หลังจีนรับประกัน วอนอย่ามโนจนสร้างปัญหา
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 27 ก.พ.68 ที่กระทรวงยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และ พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.ตม. ร่วมแถลงข่าวส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน โดยมีการโทรศัพท์ทางไกลร่วมกับ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาสมช. และ พล.ต.อ.ไกร บุญทวดทรง รองผบ.ตร. เดินทางร่วมไปส่งชาวอุยกูร์ที่จีน
นายภูมิธรรม ระบุว่า เราได้วางแนวทางปฏิบัติมาตั้งแต่ต้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหารัฐบาลเป็นห่วงว่าหากส่ง ชาวอุยกูร์กลับไปแล้วจะเกิดปัญหาหรือไม่ ยืนยันเราการทำตามกระบวนการที่มั่นใจว่าถูกต้อง ทั้งกฎหมายภายในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายสากล และ พรบ.การอุ้มหาย ซึ่งปัจจุบันไม่พบปัญหาตามที่ทุกคนมีข้อกังวล และไม่อยากให้จินตนาการ จะทำให้เกิดปัญหาและเรื่องราวตามมา ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ
ที่ผ่านมาชาวอุยกูร์อยู่ประเทศไทย ประมาณ 10 ปี โดยเราจะใช้แนวทางในการส่งไปประเภทที่ 3 หรือเจ้าของประเทศขอรับกลับ เราก็จะพิจารณาโดยยึดความสมัครใจว่าหากเดินทางกลับไปแล้ว จะไม่ก่อให้เกิดปัญหา และทางจีนยืนยันว่าบุคคลกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่ผู้ที่ทำความผิดร้ายแรงอะไร เมื่อเดินทางกลับไปแล้วจะจัดหาอาชีพให้
โดยก่อนหน้านี้ นายกฯ เดินทางไปประเทศจีน ก็ได้พูดคุยในประเด็นดังกล่าว ซึ่งจีนรับประกันว่าไม่ต้องเป็นห่วง ยืนยันในเรื่องความปลอดภัย เมื่อส่งตัวกลับแล้วประเทศไทยจะตรวจสอบเป็นระยะ โดยนับจาก 7 วันหลังจากนี้ พ.ต.ท.ทวี จะเดินทางไปตรวจสอบ และจะเป็นหน้าที่ของสถานทูตไทยในจีนเพื่อดูแลว่าคนกลุ่มดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่
ทั้งนี้การส่งชาวอุยกูร์ขึ้นเครื่องบินถือว่าเสร็จภารกิจแล้ว แต่รัฐบาลไทยจะขอดูจนมั่นใจ รัฐบาลทำด้วยความรู้สึกรับผิดชอบ ยึดหลักมนุษยธรรม เราไม่สบายใจที่เขาอยู่ในการควบคุมของเรา เขาควรจะกลับไปอยู่ในประเทศของเขาไปอยู่กับญาติของเขา การตัดสินใจครั้งอยู่บนพื้นฐานมนุษยธรรม ถือเป็นเรื่องสำคัญระหว่างประเทศ และหลายคนมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่อยากให้เอาความเชื่อที่ตัวเองคิดว่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ตนมองว่าภาพจะอธิบายแทนคำตอบ ส่วนที่ส่งตัวชาวอุยกูร์ในช่วงเวลากลางคืน ก็เพื่อให้เกิดความระเบียบเรียบร้อย หลีกเลี่ยงความวุ่นวายทั้งหลาย ยืนยันรัฐบาลทำด้วยความโปร่งใสและทำให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้เรื่องชาวอุยกูร์ค้างคาไปเรื่อยๆ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรบ.การอุ้มหาย มีตนเป็นประธาน เรื่องอุยกูร์มีเรื่องร้องเรียนเข้ามานานแล้ว ที่ถูกกักขังเข้าข่ายการทรมาน การแก้ไขปัญหาคือส่งกลับประเทศจีน หากไม่มีประเทศที่ 3 แสดงความจำนงขอรับตัว แต่การส่งกลับจีนมีเงื่อนไขต้องสมัครใจ และมีเงื่อนไขไม่ให้ส่งตัวหากบุคคลนั้นตกอยู่ในอันตราย
“การที่เขาอยู่ประเทศไทยเขาทรมาน แต่เมื่อกลับไปแล้วเขาได้พบกับพี่น้องเขามีความสุข จากนั้นจะตรวจสอบเป็นระยะ เพราะเราคำนึงถึงมาตรา 13 เพื่อให้เห็นว่าเราแก้ปัญหาถูกต้อง เพราะ 10 ปีแล้วที่เราเอาเขามาทรมาน และการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลไทยเป็นการประกาศว่าเราได้ยกระดับเพื่อช่วยเหลือชีวิตคน“ พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ธนิต ยืนยันว่า ก่อนส่งกลับได้ทำความเข้าใจ ไม่มีการทำร้ายหรือใช้กำลัง มีการเจรจาพูดคุย และชาวอุยกูร์ยินยอมที่จะเดินทางกลับ โดยมีข้อตกลงเรื่องความปลอดภัย ไม่มีการซ้อมทรมานใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำขั้นตอนส่งชาวอุยกูร์ว่า
1.รัฐบาลจีนได้มีคำขออย่างเป็นทางการ โดยหนังสือทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยส่งคนจีนเชื้อสายอุยกูร์ จำนวน 45 คน ที่กระทำความผิดโดยได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงถูกจับกุมและกักกันอยู่ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว โดยไม่มีข้อหาอื่นใด (ยกเว้นบางคนที่ทำการแหกห้องขัง และทำร้าย จนท.)
2.รัฐบาลจีนยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนสัญชาติจีนทั้งหมด พร้อมได้มอบหลักฐาน และเอกสารประกอบ
3.รัฐบาลจีนระบุว่า บุคคลเหล่านี้มีความผิดเพียงเล็กน้อย เป็นเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ร้ายแรงอื่นใด ดังนั้นเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศจีน จะได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่ครอบครัวได้โดยตรง และกลับคืนสู่การดำรงชีวิตโดยปกติ และให้การรับรองอย่างเป็นทางการ และหนักแน่นว่าจะให้ความปลอดแก่บุคคลเหล่านี้อย่างเต็มที่
4. รัฐบาลจีนพร้อมให้ฝ่ายไทยร่วมสังเกตการณ์ในขณะที่คนเหล่านี้เดินทางไปถึง เพื่อยืนยันว่าเป็นไปด้วยความปลอดภัย และกลับคืนสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความเคารพต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน
5. รัฐบาลจีนพร้อมให้คณะผู้แทนจากฝ่ายไทยเข้าไปสังเกตการณ์เป็นระยะๆ ว่าคนเหล่านี้ได้กลับไปสู่ครอบครัว และกลับไปดำรงชีวิตโดยปกติ และได้รับความปลอดภัย
6.รัฐบาลจีน (ทั้ง กต. และกงอัน) พร้อมที่จะแถลงอย่างเป็นทางการยืนยันในการให้ความปลอดภัยแก่บุคคลเหล่านี้
7.สำหรับการพิจารณาของฝ่ายไทย ได้คำนึงถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นสำคัญ
7.1 การส่งตัวชาวต่างชาติกลับประเทศเป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงประเด็นที่ว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหาดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับปัญหา แต่กลับต้องแบกรับภาระในการดูแลบุคคลเหล่านี้มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
และแทนที่จะได้รับความเห็นใจ ได้รับความชื่นชม ได้รับความช่วยเหลือ สนับสนุน ที่ทุกฝ่าย (ทุกประเทศ) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยอมรับร่วมกันได้ กลับถูกตำหนิ กดดันให้ดำเนินการตามความต้องการของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลใดๆ ขอยืนยันว่าการส่งตัวบุคคลเหล่านี้กลับประเทศ มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศอื่นใดทั้งสิ้น แต่เป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ถูกละเมิดสิทธิมากว่า 10 ปี ในขณะเดียวกันประเทศไทยต้องแบกรับภาระมาโดยตลอด
7.2 การดำเนินการเป็นไปตามหลักกฎหมายภายในของประเทศไทย
7.3 เป็นไปตามผลประโยชน์ของประเทศไทยในมิติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ อย่างรอบคอบ
7.4 เป็นไปตามพื้นฐาน และหลักการเคารพด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะหลักการเรื่อง non refoulment ที่จะไม่ส่งคนกลับไปโดยได้รับอันตราย เนื่องจากได้รับการยืนยันจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการ และให้คำรับรองอย่างหนักแน่นว่าจะให้การดูแล และรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลกลุ่มนี้อย่างเต็มที่
7.5 ได้รับการพิจารณาโดยรอบครอบโดยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
7.6 บุคคลเหล่านี้ถูกกักขังด้วยข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และจะต้องถูกส่งกลับประเทศของตน ถูกกักขังอยู่ในสถานที่กักกันที่คับแคบมากว่า 10 ปีแล้ว และประชาคมโลกก็เห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งนี้รัฐบาลไทยจะติดตามตรวจสอบหลังจากนี้ต่อไป