กัน จอมพลัง พาผู้เสียหาย หญิงถูกสามีนายทหารทำร้ายร่างกาย และคดีของจ่าพั้นช์ ถูกยิงเสียชีวิต เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ผบ.ทบ.
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลเวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหาย 2 ราย เดินทางมาร้องทุกข์ กรณีโดยกรณีแรก เป็นหญิงสาวถูกสามี ซึ่งเป็นทหารสังกัดหนึ่ง ในพื้นที่ภาคใต้ ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ลงบันทึกแจ้งความไว้ แต่กลับถูกทหารคนดังกล่าว ข่มขู่คุกคาม และบุกไปทำลายสต๊อกสินค้าออนไลน์ที่ตนเองจำหน่ายจนได้รับความเสียหาย อีกทั้งเพื่อนของทหารนายนี้ ข่มขู่ว่า หากเรื่องดังกล่าวถึงบุคคลอื่น ผู้เสียหายอาจจะถูกทำร้ายอีก ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกกลัวมาก เลยต้องมาขอความช่วยเหลือ เพื่อความปลอดภัย
โดยนายกัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้พูดคุยกับผู้กำกับสถานีตำรวจ ที่ผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความหลังถูกทำร้าย ว่าผู้กำกับแจ้งกับผู้เสียหายว่า “ถ้าเขาออกจากราชการไป จะหนักกว่านี้นะ” ทำการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ผู้เสียหายยอมความไม่ดำเนินคดี แต่ตนเองรู้สึกว่าเป็นการไกล่เกลี่ย ลีกษณะของการสร้างความกลัวให้ผู้เสียหายมากกว่า นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับทางผู้การของนายทหารนายนี้ โดยได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ “หย่า” ผู้เสียหายก็ยอมไปหย่าให้ แต่ทหารนายนี้ยังบุกไปหาผู้เสียหายที่บ้าน ทำให้ผู้เสียหายต้องหนีไปพื้นที่อื่น เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ส่วนกรณีที่สอง เป็นเหตุการณ์ทึ่นายจักรกฤษ หรือ เซ็นวรวงศ์พาณิชกุล อายุ 34 ปี ที่ปรึกษากรรมการตำรวจ สภ.หัวหิน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิง จ.ส.อ.โรจชนะภณ หรือ จ่าพันซ์ โรจน์ชนะภานิช อายุ 31 ปี นายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี เสียชีวิตคาที่จากเหตุทะเลาะวิวาท ภายในร้าน TINY Club ซอยหัวหิน 80 ถ.เพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน โดยครอบครัวของจ่าพั้นซ์ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกนายทหารระดับผู้บังคับบัญชานายหนึ่งโทรมาหาภรรยา และพ่อของจ่าพั้นช์ โดยอ้างตัวว่า เป็นคนกลางจากฝั่งของคนยิงจ่าพั้นช์ มาขอไกล่เกลี่ย และขอให้ยุติการดำเนินคดี เพราะเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว และคนตายก็ตายไปแล้ว ภรรยา และพ่อแม่ของจ่าพั้นช์ รู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงขอให้ “กัน จอมพลัง” เข้าช่วยเหลือ
จากนั้นกันจอมพลัง และผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์กับ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองทัพ โดยมีนายทหารประจำศูนย์ ได้ลงมารับเรื่องดังกล่าว พร้อมนำเรื่องร้องทุกข์ส่งผู้บังคับบัญชาในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย