สปสช.ต้อนรับ กมธ.กิจการศาลฯ แจง 6 ประเด็นบริหาร ‘กองทุนบัตรทอง’

วันนี้ (19 มีนาคม 2568) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา คณะผู้บริหาร สปสช.ได้ให้การต้อนรับ นายสัญญา นิลสุพรรณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ในโอกาสติดตามผลการดำเนินงานการบริหารจัดการเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และการดำเนินงานเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช.ได้ชี้แจงและให้ข้อมูลต่อ กมธ.กิจการศาลฯ ใน 6 ประเด็น 1.บทบาทหน้าที่และภารกิจของ สปสช. 2.ผลการดำเนินงานและการบริหารจัดการเงินกองทุนฯ ที่ผ่านมา 3.แนวทางการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์และบริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth/Telemedicine) 4.การดำเนินงานสิทธิประโยชน์ของประชาชนในระบบฯ เช่น นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ความคืบหน้าของโครงการโรงพยาบาล กรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาลและปริมณฑล การแพทย์ทางโกลดูแล 42 กลุ่มโรค เป็นต้น 5.การสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562 และ 6.ความเป็นไปได้ในการรวมกองทุน ทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ

“ทั้งนี้ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 เพื่อให้คนไทยที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพรองรับ ได้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม และได้มี พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 กำหนดแนวทางดำเนินงานของกองทุน โดยมีการจัดตั้ง สปสช. ซึ่งได้ดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ ทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย ได้รับความคุ้มครองหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้าด้วยความมั่นใจ และการกำกับของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนฯ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสาธารณสุข ที่ทำหน้าที่ดูแลในเรื่องมาตรฐานบริการ นอกจากนี้ ยังเป็นกองทุนฯ ที่เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน” นพ.จเด็จ กล่าว

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สำหรับงบประมาณดำเนินการนั้น สปสช.ได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ในภาพรวมงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศยังอยู่ที่ร้อยละ 4.4 ของจีดีพี ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยกัน ส่วนประเด็นการรวมกองทุนรักษาพยาบาล ทั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ นั้น หลักการเรื่องนี้ คือ คนไทยต้องมีสิทธิพื้นฐานก่อน เพื่อความเท่าเทียม เช่น บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ส่วนจะไปเติมอะไรเพิ่มนั้นให้เป็นเรื่องของแต่ละกองทุน

“ประเด็นต่างๆ ที่ได้รับจาก กมธ.กิจการศาลฯ ในวันนี้ เป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่ง สปสช. จะทำการรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาระบบต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว