ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันในจีนเป็นครั้งแรก

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันเอกชนในจีนที่จัดซื้อน้ำมันดิบอิหร่านและเรือที่ขนส่งน้ำมันดิบจากอิหร่านไปยังโรงกลั่นน้ำมันดังกล่าว ทั้งนี้ อิหร่านมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยมีจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านรายใหญ่ที่สุด

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 20 มี.ค. 2568 อยู่ที่ 68.26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.10 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 72.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

กลุ่ม OPEC+ ได้ประกาศให้ประเทศสมาชิก 7 ประเทศ รวมถึงรัสเซีย คาซัคสถาน และอิรัก ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง เพื่อชดเชยการผลิตน้ำมันเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ โดยแผนการปรับลดจะถูกกำหนดเป็นรายเดือนที่ระดับ 189,000-435,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือนมิถุนายน 2569

ราคาน้ำมันดิบยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.5 ภายหลังธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสำหรับผู้ซื้อน้ำมันดิบจากต่างชาติ

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียรายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือนมกราคมปรับลดร้อยละ 22.20 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1,350 ล้านตัน จากการสิ้นสุดของการเฉลิมฉลองเทศกาลสิ้นปี

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังญี่ปุ่นรายงานปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดร้อยละ 1.8 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 7.93 ล้านบาร์เรล