เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาได้เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 730 ราย โดยคาดว่า จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่า “เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก” และได้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมา
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาดความแรง 7.7 แมกนิจูด เกิดขึ้นใกล้กับเมือง มัณฑะเลย์ ของเมียนมา และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูด โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และเกิดขึ้นใกล้กับ รอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลังและทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมา
แผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ของเมียนมา และสั่นสะเทือนถึง กรุงเทพฯ, เวียดนาม, และ มณฑลยูนนาน ของจีน
USGS ได้ออกคำเตือนสีแดง โดยระบุว่าเหตุการณ์นี้มีศักยภาพที่จะสร้างความเสียหายรุนแรงและอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึงหลายพันราย
รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศทันที โดย พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า “เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นอกจากนี้รัฐบาลยังขอรับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้บาดเจ็บที่กำลังได้รับการรักษาตัวใน มัณฑะเลย์, เนปิดอว์, และ สะกาย
การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยรัฐบาลเมียนมาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเขต ได้แก่ สะกาย, มัณฑะเลย์, เนปิดอว์, พะโค, มะเกวย์, และ รัฐฉาน