กกต.พัทลุงคาด การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลปีนี้ การแข่งขันทางการเมืองสูง ทางด้าน‘สุเมธ บุญยก’ อดีตนายกฯ นำทีมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนยื่นใบสมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลจ.พัทลุง ปี 2568 มีทั้งสิ้น 49 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลเมือง 1 แห่ง และเทศบาลตำบล 48 แห่ง โดยพื้นที่ที่มีการแข่งขันทางการเมืองสูง ได้แก่ เทศบาลเมืองพัทลุง, เทศบาลตำบลตำนาน อ.เมืองพัทลุง, เทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด และเทศบาลตำบลกงหรา อ.กงหรา เนื่องจากเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าของจังหวัด

ต่อมานายสุเมธ บุญยก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง หัวหน้ากลุ่มรักษ์เมืองลุง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีและผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ได้เดินทางมากราบสักการะพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง

จากนั้นได้เดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลเมืองพัทลุง เข้ายื่นใบสมัครนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุงและสมาชิกสภาเทศบาลโดยมีนางสาวจรัสขวัญ ชาวเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพัทลุง  (ผอ.กกต.จ.พัทลุง) และคณะเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการสมัครนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง มีนายสุเมธ บุญยก หัวหน้ากลุ่มรักษ์พัทลุง ได้หมายเลข 1, นายภัสกร ช่วยวงศ์ อดีตข้าราชการครูโรงเรียนสตรีพัทลุง หัวหน้าทีมร่วมพัฒนา ได้หมายเลข  2

ในส่วนของผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองพัทลุง เขตที่  1  กลุ่มรักษ์พัทลุง ได้ยื่นใบสมัครเพียงกลุ่มเดียว แต่ในเขตเลือกตั้งที่ 2  มีผู้สมัครอิสระยื่นใบสมัคร 3 ราย และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้สมัครยื่นใบสมัคร 1 ราย แต่ในส่วนทีมร่วมพัฒนานายภัสกร ช่วงวงศ์ หัวหน้าทีมร่วมพัฒนาได้บอกว่าในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองพัทลุง

ขณะที่เทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด มีดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ หัวหน้าทีมรักแม่ขรีและอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ขรี พร้อมทีม จำนวน 12 คน ได้หมายเลข 1 และทีมแม่ขรีพัฒนามีผู้สมัคร สท.จำนวน 12 คน ได้หมายเลข 2 นอกจากนั้นยังมีผู้สมัคร สท.อิสระจำนวนหนึ่ง

ส่วนนายสำราญ สุบรรณวงศ์ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ขรี หัวหน้าทีมแม่ขรีพัฒนา จะมาลงสมัครนายกเทศมนตรี ในวันที่ 2 เมษายน 2568

ทางด้านนางสาวจรัสขวัญ ชาวเรือ ผอ.กกต.จ.พัทลุง ได้เปิดเผยว่า การเลือกตั้งสภาเทศบาลจ.พัทลุง มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งทางกกต.ได้เตรียมพร้อมรับมือโดยมีมาตรการในการป้องปรามการทุจริตการเลือกตั้งโดยการจัดชุดปฏิบัติการข่าว หากมีการพบว่ามีความรุนแรงในการเลือกตั้งในพื้นที่ก็จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วของตำรวจเข้าร่วมบูรณาการกับกกต. และจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งร่วมลงพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ในเบื้องต้นมีการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้สมัครผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานการเลือกตั้งทุกฝ่าย