โป้งเดียวจอด เสียงปืนดังลั่นห้องน้ำ ยิงดับเจ้าของกิจการตัดเย็บเสื้อผ้า น้องชายไม่คิดว่าพี่ชายจะเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2568 พ.ต.ท.กรวิก สุปะทัต สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีเหตุชายทำร้ายตนเองด้วยการยิงตัวเองเสียชีวิต อยู่ภายในห้องน้ำบนบ้านพัก ภายในซอยบางบอน1ซอย19 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านพัก ซอยบางบอน 1 ซอย 19 ถนน บางบอน 1 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น เหตุเกิดภายในห้องน้ำชั้นที่ 3 จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าวพบร่างนายวินัย อายุ 49 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำดังกล่าว สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีเทา ไม่สวมรองเท้า มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากบริเวณหน้าอก และแผ่นหลัง อาสาสมัครพยายามทำCPR แต่ไม่เป็นผล
ใกล้กันพบปืนพกสั้นขนาด 9 มม. วางใกล้กับบริเวณปลายเท้าข้างซ้าย ส่วนบริเวณปลายเท้าข้างขวา พบเก้าอี้พลาสติกสีเขียว 1 ตัว บนเก้าอี้พบซองปืน 1 ซอง วางคู่กับไฟแช็คสีเหลือง 1 อัน และพบหัวกระสุนปืนอยู่บริเวณข้างขอบอ่างน้ำ ในลักษณะฝังอยู่กับพื้นปูน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม นายแจ๊ค อายุ 36 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนอยู่ภายในห้องพอตนได้ยินเสียงก็เลยเดินเข้าไปดู แล้วก็โทรหาแฟนพี่ชาย ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ภายในห้องกับพี่ชาย ก่อนที่พี่ชายจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นได้ยินเสียงปืนเพียง 1 นัด จึงเดินไปดูแล้วก็เคาะประตู พยายามเรียกพี่ชาย ก่อนผลักประตูเข้าไป พบว่าหายใจเฮือกๆอยู่ ตนจึงรีบโทรแจ้งเมียพี่ชาย และโทรแจ้งกู้ภัย ก่อนหน้านี้พี่ชายไม่เคยบ่น หรือพูดอะไร บอกแต่ว่าเขาปวดท้อง ขอตัวเข้าห้องน้ำ
เบื้องต้นจากการสอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต และคนใกล้ชิด ทราบว่าผู้ตายทำกิจการรับตัดผ้า พักหลังจะมีปัญหาในเรื่องของการหมุนเงิน ที่มาใช้ลงทุนในธุรกิจ ไม่ค่อยจะทัน ขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงจำเป็นที่จะต้องไปกู้เงินนอกระบบ เพื่อมาต่อยอด จึงอาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม ก่อนตัดสินใจจบชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางภรรยาไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และถูกรื้อค้น แต่อย่างไรแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอตรวจสอบคราบเขม่าดินปืนจากมือทั้งสองข้าง และลายนิ้วมือ ของน้องชายก่อน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่พบ เพื่อความบริสุทธิ์ใจเนื่องจากอยู่กับผู้เสียชีวิตเพียงลำพัง
