เจาะเส้นทาง พญาหงส์ บัญชาเมฆ แชมป์ผู้เก่งกาจและน่ารักของราชดำเนิน
สนามมวยราชดำเนิน ซึ่งเป็นสังเวียนมวยที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในโลก ก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ของการก่อตั้งแล้ว และมีแผนจะยกระดับทั้งมาตรฐานของสนามและคู่มวยที่จัดชกในทุกรายการให้ก้าวเข้าสู่ระดับอินเตอร์ โดยเฉพาะการก่อกำเนิดของบริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส หรือ GSV ภายใต้การบริหารของ “แบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (GSV) ประธานรายการ RWS – Rajadamnern World Series และกรรมการบริหารสนามมวยราชดำเนิน ที่ได้ผุดไอเดียใหม่ในการจัดรายการไม่ว่าจะเป็นศึก RWS หรือ Rajadamnern World Series ซึ่งก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว
ในศึก RWS ยังเพิ่มโปรเจ็กต์ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT เกิดขึ้นอีกด้วย และเพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปปลายปีที่แล้วสำหรับ RAJADAMNERN IMMERSIVE MUAY THAI ที่สร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับการรับชมและดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมมวยไทย และยังเกิดมิติใหม่ในการจัดชกชิงแชมป์มวยหญิงในรายการชิงแชมป์ของเวทีราชดำเนิน โดย “ผึ้ง” โสมรัศมี มานพยิม นักชกสาวชาวกะเหรี่ยงชนเผ่าปกาเกอะญอ เป็นนักมวยหญิงคนแรกที่คว้าเข็มขัดแชมป์เวทีราชดำเนิน รุ่นแบนตั้มเวทหญิง
จากนั้นสาวน้อยอีกคนที่เดินตามรอยของโสมรัศมีก็คือ “น้องปุ้ม” พญาหงส์ บัญชาเมฆ สาวน้อยวัย 22 ปีจาก จ.บุรีรัมย์ หรือในชื่อจริงว่า จันทกานต์ มโนบาล โดย พญาหงส์ เอาชนะคะแนน ซายะ อิโตะ อดีตคู่ปรับเก่าชาวญี่ปุ่นอย่างเป็นเอกฉันท์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยหญิงคว้าเข็มขัดแชมป์รุ่นมินิมัมเวท 105 ปอนด์ของเวทีราชดำเนินไปครองเป็นคนแรก
น้องปุ้ม-พญาหงส์ กล่าวว่า “หนูฝึกมวยมาตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบ แล้วก็ไต่เต้าไปตามเส้นทางของตัวเอง ส่วนมากก็มักจะตระเวนชกในบ้านเกิดแล้วก็จังหวัดใกล้เคียง ส่วนชื่อของสนามมวยราชดำเนินนี่จำได้ว่ามารู้จักตอนเรียน ม.1 ตอนที่เข้ามากรุงเทพฯแล้วก็ชกมวยไทยสมัครเล่นอยู่”
แต่ สนามมวยราชดำเนิน ดูเป็นเรื่องไกลตัวของเด็กจากบ้านนอกไปเสียหน่อย แต่ก็พอได้ยินตำนานของสนามมวยที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในโลกอยู่บ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งเธอจึงได้เข้าไปชมบรรยากาศของสนามมวยราชดำเนินเป็นครั้งแรกในไฟต์ที่ไอดอลของเธอคือ บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นชกในศึก เลเจนด์ ออฟ ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 เจอกับ โคตะ มิอุระ นักชกชาวญี่ปุ่น ซึ่งบัวขาวเหนือกว่าทุกอย่างจนกรรมการสั่งยุติการชกไปในยกที่ 3 โดยที่ พญาหงส์ เข้าสนามไปหนนั้น ก็เพราะเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของ พี่บัว เท่านั้น และอยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการชกมวยคิกบ็อกซิ่งอยู่
“หนนั้นได้สัมผัสสนามมวยราชดำเนินเป็นครั้งแรกค่ะ เป็นเด็กบ้านนอกที่ได้ไปเห็นเวทีมวยที่ใหญ่โต มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แล้วเป็นที่รู้จักของแฟนมวยทั่วโลกก็ตื่นเต้นมาก บรรยากาศในวันที่เข้าไปดูน่าตื่นเต้น ยิ่งใหญ่ อลังการมาก แฟนมวยเข้ามาชมกันแน่น เป็นครั้งแรกกับเวทีราชดำเนินที่รู้สึกประทับใจมากและอยากได้โอกาสมาอีก พอดูพี่บัวขาวขึ้นชก แล้วมีแฟนมวยส่งเสียงเชียร์ดังมากก็พลอยทำให้หนูฮึกเหิมมาก บอกตรงๆ ว่าในใจก็อยากมาชกที่นี่สักครั้งนึง อาจจะมีสักวันหนึ่งที่ได้ขึ้นไปบนเวที ได้แสดงศิลปะการต่อสู้ของเราในเวทีนี้”
จนวันหนึ่ง พญาหงส์ ได้สมหวังกับความต้องการของตัวเอง และไปไกลกว่าที่ตัวเองจะคาดคิดเสียด้วย เพราะได้เป็นแชมป์ของเวทีราชดำเนิน และหลังจากได้รับตำแหน่งก็สามารถป้องกันตำแหน่งไว้แล้วครั้งหนึ่งด้วยการเอาชนะคะแนน ข้าวสวย หิมาลัยยิมส์ ไปเมื่อปลายปีที่แล้วแต่ก่อนหน้านั้น น้องปุ้ม ก็ฝ่าฟันอุปสรรคมาแล้วมากมายก่อนจะมีวันนี้
นักมวยสาววัย 22 เริ่มต้นฝึกมวยตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า น้องปุ้ม เป็นชื่อแรกในการชกมวย ต่อมา วิลาวัลย์ ผู้เป็นแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า พญาหงส์ ส่วนสาเหตุที่เลือกชกมวยก็เพราะอยากหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว อย่างน้อยก็อยากหาเงินเรียนหนังสือเอง และอีกอย่างก็คือที่ จ.บุรีรัมย์ มีค่ายมวยอยู่เต็มไปหมด และหลังจากฝึกมวยมาได้ระยะหนึ่งก็ได้ขึ้นเวที
หลังจากนั้น พญาหงส์ ก็เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อไต่เต้าเส้นทางฝันนอกจากมวยไทยแล้วก็ยังได้ชกมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง รวมถึงการได้เดินทางไปชกเค-วันที่ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ใช้ชื่อว่า พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม และทำให้ได้มีโอกาสสัมผัสตัวเป็นๆ ของไอดอลอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ อย่างบังเอิญในร้านอาหารไทย
“แต่หนูน่ะรู้จักพี่บัวครั้งแรกก่อนหน้านั้นแล้วนะคะ คือเห็นคลิปในยูทูบที่พี่เขาเตะต้นกล้วย พอได้เจอตัวจริงก็ตื่นเต้นมาก” และ “น้องปุ้ม” เดินรอยตามของ “บัวขาว” ด้วยการกลายเป็นแชมป์เค-วันในรายการ ในการแข่งขัน K-1 คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รายการ K-1 Ring of Venus เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565
นอกจากนั้นสาวน้อยจากบุรีรัมย์ยังเคยคว้าแชมป์โลกมวยไทยสมัครเล่น 3 สมัย และยังเคยคว้ารางวัลไหว้ครูมวยไทยสวยงามดีเด่นหญิงในวันมวยไทยของการกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2563 และวงจรชีวิตของเธอก็มาพบพานกับไอดอลของเธออีกครั้ง เมื่อได้เซ็นสัญญาไปอยู่กับค่าย “บัญชาเมฆ” เมื่อปีที่แล้ว แต่ไฟต์แรกเป็นศึก RWS ที่จัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งพ่ายให้กับ ซายะ อิโตะ เมื่อวันที่ 14 เมษายนปีที่แล้ว ก่อนจะมาล้างตาสำเร็จในการชิงเข็มขัดแชมป์ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567
“เป็นไฟต์ที่หนูตื่นเต้นมาก เพราะได้ชกชิงเข็มขัดแชมป์ และยังได้ขึ้นชกที่เวทีราชดำเนินที่เคยฝันว่าจะได้ชกมานานแล้วด้วย เป็นไฟต์ที่ใหญ่มาก กดดันด้วย คนดูก็เยอะมาก นานๆ หนูจะได้ชกที่ไทยด้วย โชคดีที่พี่บัวขาวยังได้วิดีโอคอลหา และให้คำแนะนำว่าให้มีสมาธิกับการชกและอย่าถอยเยอะ พอทำได้อย่างนั้นก็เลยได้แชมป์ค่ะ ดีใจมากๆ”
“น้องปุ้ม” มีนามสกุล “มโนบาล” เป็นนามสกุลเดียวกันกับ ลิซ่า Blackpink ศิลปินที่โกอินเตอร์ไปสู่ระดับโลกแล้ว เนื่องจากเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่สมัยเด็กไม่ได้พบกัน เพราะลิซ่าไปสร้างฝันของตัวเองอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้
ตอนนี้ “พญาหงส์ บัญชาเมฆ” คือนักมวยหญิงดาวรุ่งที่กลายเป็นแชมป์เวทีราชดำเนิน และกำลังใช้ศิลปะ “มวยไทย” เป็น “ซอฟต์ พาวเวอร์” สร้างชื่อให้กับประเทศไทยเช่นเดียวกับ “ลิซ่า” ถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านทางดนตรีให้ทั่วโลกได้รู้จัก ไฟต์ต่อไป “พญาหงส์” จะขึ้นชกป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นมินิมัมเวท 105 ปอนด์ของเวทีราชดำเนินกับ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า ในศึก RWS ในวันที่ 5 เมษายนนี้
“การได้แชมป์ก็ถือว่ายากอยู่แล้ว แต่หนูคิดว่าการป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่าอีก”
“พญาหงส์ บัญชาเมฆ” เป็นหญิงเหล็กอีกคนที่กำลังสร้างสีสัน และความยอดเยี่ยมให้กับศึก RWS และเวทีราชดำเนิน และน่าติดตามพัฒนาการของตัวเองมากเหลือเกิน