แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใกล้ทำลายสถิติที่ไม่น่าจดจำของตัวเอง หลังบุกปราชัย “เจ้าป่า” น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ประตูโทนของแอนโธนีย์ เอลังกา ตั้งแต่ต้นเกม ยัดเยียดความปราชัยให้ทีมของ รูเบน อโมริม ที่ซิตี้ กราวน์ ถือเป็นการแพ้ 13 จาก 30 เกมในพรีเมียร์ ลีก ซีซั่นนี้
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ “ปีศาจแดง” เข้าใกล้การพ่ายแพ้มากที่สุดในเวทีพรีเมียร์ ลีก ต่อซีซั่น หลังเคยทำสถิติเอาไว้ที่พ่าย 14 นัดในฤดูกาลที่แล้ว
หนสุดท้ายที่ทีมจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แพ้มากกว่า 14 เกมในฤดูกาลเดียวคือสมัยยังเป็นดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1989-1990 โดยตอนนั้นพวกเขาแพ้ไปถึง 16 นัด และในเกมต่อไป ยูไนเต็ด จะต้องเจอกับศึกหนัก อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี ในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี วันที่ 6 เม.ย.นี้
ไม่เท่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังโดนยิงประตูขึ้นนำไปก่อนถึง 23 เกมในซีซั่นนี้ มากสุดเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อีกด้วย
รูเบน อโมริม กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขาไม่ได้รับเวลามากมายเท่าไหร่นักในการพลิกผลงานของสโมสร หลังล่าสุดบุกไปพ่ายน็อตติงแฮม ฟอเรสต์
“ในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณไม่มีเวลาเท่าไหร่ เราต้องแก้ไขมันอย่างรวดเร็ว” อโมริม เริ่มกล่าว
“ที่นี่ บางครั้งความกดดันมันก็เยอะมาก เราเริ่มต้นเกมด้วยการเสียประตูแล้วทำให้ น็อตติงแฮม อยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาต้องการ คือการเล่นเกมรับโดยใช้นักเตะจำนวนมาก จากนั้นก็มีนักเตะที่มีความเร็วในการเปลี่ยนเกม”
“แม้ถึงอย่างนั้นเราก็คอนโทรลเกมได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง เราลุยไปข้างหน้า แต่เป็นอีกครั้งที่พื้นที่สุดท้ายนั้นเราไม่ดีพอ”
“ผมสามารถมองเป็นพัฒนาการได้นะ แน่นอนที่สุด แต่ตอนนี้เราต้องโฟกัสกับการเอาชนะเกม เราควรชนะเกมนี้ที่เจอกับฟอเรสต์ ไม่ใช่ผลเสมอด้วยซ้ำ แต่ท้ายที่สุดแล้วเราเสียไปสามคะแนน” เฮดโค้ชโปรตุกีส กล่าวปิดท้าย