นายอำเภอแม่สาย เผยพร้อมทำแนวป้องกันน้ำแม่สายท่วมซ้ำ ไทย-เมียนมาร่วมขุดลอก คาดเริ่มปลายเดือนนี้

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการดำเนินการแผนป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า ล่าสุดทางพล.ท.จินตมัย ชีกว้าง เจ้ากรมกิจการพลเรือนกองทัพบก พร้อมคณะเจ้ากรมกิจการพลเรือนกองทัพบก ได้เดินทางไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำแม่สาย ประจำปี 2568 ณ สะพานจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภายหลังในห้วงปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมาได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมแม่สายครั้งใหญ่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก

ทั้งนี้มีทางพล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่างฯ พล.ต.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ปลัดอำเภอแม่สาย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง และส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงแนวทางการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำ ดินโคลนหลาก อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมเข้าทำการสำรวจพื้นที่ตลอดเส้นทางน้ำแม่น้ำรวกในจุดที่ต้องดำเนินการ ซึ่งจะมีการก่อสร้างแนวป้องกันใหม่ พร้อมเสริมความมั่นคงแนวป้องกันที่มีอยู่เดิม โดยการผสมผสานแนวป้องกัน เข้ากับโครงสร้างอาคารบ้านเรือนและแนวป้องกันใหม่ เสริมแนวป้องกันเดิม ผสมผลาน กับโครงสร้างอาคารบ้านเรือน ให้สามารถป้องกันน้ำท่วมได้แต่ไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนหรือกระทบต่อระบบนิเวศน์ของพื้นที่

นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่าแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างประเทศ โดยทางอำเภอไม่สามารถที่ดำเนินการใดๆเองได้ แต่ก็มีการสำรวจพื้นที่แนวเขต พื้นที่สิ่งกีดขวางและบ้านเรือนประชาชนล้ำแนวเขตทั้งหมดแล้ว โดยฝ่ายเมียนมาจะเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำสาย ตั้งแต่ต้นน้ำชุมชนถ้ำผาจมไปจนถึงตำบลเกาะช้าง และจากนั้นฝ่ายไทยจะดำเนินการในส่วนของลำน้ำรวกไปจนถึงน้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน ส่วนแนวตลิ่งตลอดแนวแต่ละประเทศจะดำเนินการเอง ซึ่งทางเมียนมาได้เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน ในส่วนของประเทศไทยกำลังจะเริ่มดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารช่าง กองทัพบก ซึ่งได้มีการนำกำลังพลและเครื่องจักรเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการแล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการแนวป้องกันตลิ่งก่อนและจะดำเนินการขุดลอกลำน้ำ ซึ่งทางเมียนมาก็ยังไม่ได้ดำเนินการซึ่งคาดว่าน่าจะช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนพฤษภาคมคงจะเริ่มดำเนินการ เพื่อให้ทันต่อการป้องกันน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง

ทั้งนี้การขุดลอกลำน้ำสายระหว่างไทย-เมียนมา รวมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนประชาชนระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดลำแม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก ได้ประชุม (JCR) เมื่อวันที่ 16-17 มกราคม 2568 ที่จังหวัดเชียงราย ทางการเมียนมาจะรับผิดชอบขุดลอกแม่น้ำสายระยะทางประมาณ 13 กม.ตั้งแต่ชุมชนบ้านถ้ำผาจม ม.1 ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปจนถึงเขตติดต่อตำบลเกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนฝ่ายไทย ทางกองทหารช่างจะเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำรวก ตั้งแต่เขตพื้นที่ตำบลเกาะช้าง อ.แม่สาย ไปจนถึงบ้านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำ เขตพื้นที่ อ.เชียงแสน ไปออกแม่น้ำโขง ระยะทางประมาณ 33 กม. ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศได้มีการดำเนินการในส่วนรื้อถอนสิ่งกีดกวางการทำแนวตลิ่งและขุดลอกลำน้ำที่รุกล้ำระหว่างไทย-เมียนมา ของเมียนมารุกล้ำเข้าไทยมาทั้งหมด 33 จุด และไทยรุกล้ำไปในพื้นที่เมียนมาจำนวน 45 จุด ไปแล้วเหลือเพียงขั้นตอนการทำแนวตลิ่งและขุดลอกลำน้ำก็จะบรรลุตามข้อตกลงร่วมกัน