นายกฯ บุกนนทบุรีจับโกดังผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ชมตำรวจทลายลอตใหญ่ ยันรัฐบาลเดินหน้าเอาจริง
ที่ จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดตามผลหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติการจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและพร้อมส่งออกจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ พร้อมส่งออกจำหน่ายในเครือข่าย กว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ
โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร.,พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. ร่วมแถลงข่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตีมูลค่าของกลางต่อชิ้น 500 บาท แต่ราคาขายจริงอาจจะสูงกว่านั้น ทั้งนี้ ขอชื่นชมตำรวจที่ประสานงานและจับกุมได้ลอตใหญ่ สิ่งที่รัฐบาลเป็นกังวลคือสารเสพติดที่จะนำไปผสมกับบุหรี่ไฟฟ้า เช่น ยาเคหรืออะไรต่าง ๆ และมีหลายเคสที่เกิดอันตรายถึงชีวิต สิ่งพวกนี้เป็นสารเสพติดที่ติดและเลิกยาก ฉะนั้นเป็นผลงานที่น่าชมเชย
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย เพราะสามารถจับกุมได้แต่รายย่อย แต่กับรายใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา นายกฯ กล่าวว่า เรื่องข้อกฎหมายต้องการความชัดเจนตรงนี้เราทราบดีแต่ต้องใช้เวลา ซึ่งเวลานี้มุ่งเน้นจับผู้ผลิตรายใหญ่ ขณะเดียวกันต้องบอกประชาชนและเยาวชนด้วยว่าเรื่องนี้คือสิ่งที่ผิดกฎหมาย
เวลานี้คุยกับกระทรวงศึกษาธิการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ให้บอกข้อกฎหมาย ให้กับครูและบุคลากรเพื่อที่จะเป็นแบบอย่าง ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าผิด และมีบทลงโทษต้องทำความเข้าใจและให้ความรู้เยาวชน ทั้งนี้มาตรการเด็ดขาดที่ตำรวจดำเนินการอยู่ คือ จับกุมผู้ผลิตและผู้รับลอบนำเข้าลอตใหญ่ ส่วนรายเล็กต้องให้ความรู้ไปด้วย เพราะเราไม่อยากให้บุหรี่ไฟฟ้าพัฒนาไปเป็นเรื่องของยาเสพติด
“นี่เป็นเรื่องที่รัฐบาลเอาจริงรวมถึงเรื่องยาเสพติด จะเห็นว่าค่อย ๆ ดีขึ้น อะไรที่เกิดขึ้นหลังจากนี้เราจะต้องเข้มงวดมากขึ้น และทางตำรวจรับทราบว่าเราจะดำเนินการอย่างไร” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า โกดังที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับทราบหรืออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เราต้องเด็ดขาดเรื่องนี้ แล้ววันนี้ก็ทำให้เห็นว่าเราทำแบบนี้ แต่ต้องดูที่มาว่ามาอย่างไร และมีกระบวนการอย่างไร ขอยืนยันว่าเราทำเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนเกรงว่ามีมาตรการออกมาครั้งหนึ่งก็จะเข้มข้นไปทีละครั้ง จะมีมาตรการอื่นให้ความมั่นใจว่าจะทำต่อเนื่อง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เริ่มต้นอาจจะมีความสับสน แต่เมื่อทุกอย่างไหลลื่นก็จะเห็นผลอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เป็นหน้าที่ของนายกฯ และรัฐบาล ที่ต้องสร้างความชัดเจน อะไรที่อยากให้ชัดเจนประชาชนก็ช่วยได้ ช่วยกันดูแลประเทศนี้
เมื่อถามว่ายังมีแหล่งใหญ่กว่านี้ที่เตรียมจะเข้าไปดำเนินการจับกุมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายข้อมูล โดยขอให้ตำรวจดำเนินการไป สำหรับประชาชนถ้าทราบว่าผิดกฎหมายขอให้เลี่ยง
เมื่อถามว่าประชาชนเป็นห่วงเมื่อจับกุมแล้ว ของกลางจะทำอย่างไรต่อ เนื่องจากเกรงจะมีการนำไปขายหรือใช้ต่อ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวลว่าใครจะเก็บหรือเอาไปใช้ เพราะจะทำลายหมด เรานับจำนวนชิ้นเอาไว้ โดยจะนำไปทำลาย และป้องกันไม่ให้สารอันตรายออกมาด้วย วันนี้เราทำทั้งหมดเมื่อจับได้ก็พร้อมทำลาย
ขณะที่ น.ส.จิราพร กล่าวเสริมว่า ของทั้งหมดนี้จะส่งไปยังกรมศุลกากร เพื่อดำเนินการเพื่อดำเนินการตามตามกฏหมายและนำไปตีมูลค่า และขยายผลเพิ่มเติม ว่าโกดังแห่งนี้จะกระจายสินค้าไปยังที่ไหน และขยายผลไปยังร้านค้าทั่วประเทศ และจะนำกฎหมาย ป.ป.ง. เข้ามาช่วย ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เมื่อถามว่ากรณีนี้ที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าถือว่าเป็นการบกพร่องของศุลกากรในเรื่องการสำแดงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จากนี้ได้สั่งให้เข้มงวด และคิดว่าทุกภาคส่วนทราบตรงกัน
ด้าน พล.ต.ต.สำราญ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจได้ทำการค้น 9 ชุด พบของกลาง 5 จุด โดยจุดที่ 5 สามารถสืบสวนขยายผลไปจับกุมได้อีก รวมทั้งหมดวันนี้ตรวจค้น 10 จุด ของกลางทั้งหมด 260,000 ชิ้น มูลค่า ประมาณ 130 ล้านบาท ซึ่งตำรวจได้ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นายกฯ มีนโยบาย โดยบูรณาการทำงาน และในภาพรวมสามารถจับกุมได้ 800,000 ชิ้น มูลค่าโดยรวม 200 ล้าน แต่ครั้งนี้มีมูลค่าเยอะ และเป็นเคสที่ใหญ่ที่สุด โดยมีผู้กระทำความผิด มี 1 รายและกำลังออกหมายจับอีก 1 ราย
ด้าน ผบช.น. กล่าวว่า ทาง ผบช.น. ได้ประสานงานกับทั่วทุกภาค เพื่อกวาดล้างจับกุมทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้การขายแพร่หลายในออนไลน์ และการจับกุมเคสนี้ได้มาจากเว็บไซต์และกลุ่มไลน์ จนสะกดรอยตามว่าขายที่ไหนบ้าง และทราบจุดพักของของผู้ต้องหา จนไล่ต่อ ที่พบไปเชื่อมต่อกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ทำการค้นโกดังด่านศุลกากรแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และขยายผลต่อจับกุมผู้นำเข้าและผู้มาจำหน่าย เพื่อมาบรรจุส่งไปรษณีย์ไปทั่วประเทศ รวมถึงมีการตั้งตู้หน้าร้านจำหน่ายเพื่อขายรายย่อย โกดังจุดนี้จึงครบวงจร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสงสัยโกดังแห่งนี้อยู่หลัง สภ.อ.บางบัวทอง แต่ปล่อย ให้มีโกดังเกิดขึ้นได้อย่างไร ผบช.น. กล่าวว่า เราประสานกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่จับกุมได้จากการขยายผลล่อซื้อ ในจังหวัดนนทบุรีมีหลายโกดัง ซึ่งเป็นโกดังปิด ตรวจสอบได้ยาก เช่น นำมาพักที่โกดังแห่งนี้ 2 เดือน พอทราบว่าจะมีตำรวจมาตรวจสอบก็ขนย้ายของหนี และจุดที่ 10 ที่จับได้คือย้ายจากโกดังนี้ไปอีกจุดหนึ่ง
ส่วนที่มีข่าวว่าคนที่เช่าโกดังเป็นภรรยาของตำรวจ ตรงนี้ขอชี้แจงว่าโกดังแห่งนี้ เป็นการปล่อยให้เช่าโดย เจ้าของเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นอดีตภรรยาตำรวจ แต่คนที่มาเช่าต่อคือผู้กระทำความผิด โดยที่ผู้ให้เช่าไม่ทราบ