ตาก ระทึก ชายแดนไทย-เมียนมา เพลิงไหม้รุนแรง รถยนต์ของกลาง ศุลกากร รอการประมูล ขายทอดตลาด วอดเสียหายหนัก 200 คัน ตำรวจเร่งพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุที่แท้จริง

18 มี.ค. 68 – หน่วยดับเพลิงเทศบาลตำบลท่าสายลวด รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์จำนวนมากภายในลานจอดรถยนต์ของกลาง ที่รอการประมูลศุลกากร ใกล้กับด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

หลังรับแจ้งเหตุต้องระดมรถดับเพลิงทั้งหมดจากทุกท้องที่ในเขตอำเภอแม่สอด พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ทหาร ฉก.ราชมนู พร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องรีบร่วมกับไปสกัดเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถยนต์ขนาดใหญ่มีรั้วรอบขอบชิด โดยที่ลานจอดรถฝั่งทิศตะวันออกโซนด้านหน้าพบรถยนต์จำนวนหลายสิบคันกำลังมีเพลิงไหม้อย่างรุนแรงและมีเสียงระเบิดดังมาเป็นระยะ โดยแสงเพลิงสูงนับสิบเมตรและกลุ่มควันไฟสีดำลอยโพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือแนวชายแดนไทย-เมียนมา

โดยประชาชนทั้งฝั่งไทยและฝั่ง จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟได้อย่างชัดเจน โดยรถดับเพลิงจากทุกท้องที่จากอำเภอแม่สอดนับ 10 คัน ถูกร้องขอกำลังมาเสริมการดับเพลิงอย่างเร่งด่วน และเพียงเวลาผ่านไปไม่กี่นาทีเพลิงได้ลุกลามขยายวงกว้างเนื่องจากในลานจอดรถยนต์จุดดังกล่าว มีรถยนต์จอดรวมกันอย่างแออัดเต็มพื้นที่เกือบ 800 คัน

หน่วยดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้โดยรอบลานจอดแต่ไม่เป็นผล ต่อมาเจ้าหน้าที่ตัดสินใจพังประตูรั้วลานจอดออกหลายด้านพร้อมส่งทีมดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิงจากด้านในใจกลางลานจอดรถยนต์ต้นเพลิงแต่การดับเพลิงก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีกระแสลมเปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงใช้สารเคมีประเภทโพมและใช้หัวฉีดน้ำดับเพลิงแรงดันสุงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงพร้อมกันแบบทุกทิศทางและก็ได้ผลสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดและต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถดับเพลิงไว้ได้ ซึ่งหลังเพลิงสงบเบื้องต้นพบว่ามีรถยนต์ที่กำลังรอการประมูลถูกเพลิงไหม้เสียหายไปกว่า 200 คัน เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อรอการตรวจสอบหาสาเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บริเวณดังกล่าวสร้างเป็นลานจอดรถยนต์ของกลางที่อยู่ระหว่างทำการประมูลรถยนต์ของกลางศุลกากรแม่สอดเพื่อขายทอดตลาด ซึ่งในลานจอดมีรถยนต์จอดรถยนต์รวมกันอย่างแออัดเกือบ 800 คันและก็เกิดเพลิงไหม้รถยนต์แบบไม่ทราบสาเหตุและยังไม่พบใครเห็นเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุจนเกิดเพลิงไหม้รถยนต์ลุกลามไหม้ขยายไปคันอื่นๆ อย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งประเทศ ซึ่งสามารถมองเหตุแสงเพลิงได้อย่างชัดเจนในระยะไกล และต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในการดับเพลิง

เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้มีรถยนต์เสียหายไปกว่า 200 คัน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเข้าไปทำการตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้แบบปริศนาในครั้งนี้ต่อไป