ความหวังเล็กๆ ของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอลในการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกแทบจะดับลงแล้ว หลังจากทำได้เพียงเสมอกับ “ทอฟฟี่สีนเงิน”เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย เลอันโดร ทรอสซาร์ ยิงให้อาร์เซนอลขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 34 แต่ถูก อิลิมัน เอ็นดิอาย ยิงจุดโทษตีเสมอ นาทีที่ 49  ส่งผลให้ทีมปืนใหญ่ตามหลังลิเวอร์พูลจ่าฝูงอยู่ถึง 11 คะแนน น่าจะต้องรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกตั้งแต่ปี 2004 ต่อไป

               มิเกล อาร์เตา กุนซืออาร์เซนอล เผยวว่า การเตรียมทีมที่ดีที่สุดก่อนเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย กับรีลมาดริด คือการคว้าชัยชนะในเกมนี้ แต่ต้องเลือกพักผู้เล่นตัวหลักหลายคนเพื่อเก็บความสดไว้ ทำให้ บูกาโย ซากา ต้องนั่งสำรองเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับ มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, เจอร์เรียน ทิมเบอร์ และโธมัส ปาร์เตย์

               ส่วนจังหวะเสียจุดโทษของอาร์เซนอลนั้น ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี ถูกจับฟาวล์ใส่ แจ็ค แฮร์ริสัน แม้ว่าภาพช้าจะชี้ให้เห็นว่าอาจจะเป็นการปะทะแบบ 50/50 และอาจไม่ได้เกิดขึ้นในเขตโทษด้วยซ้ำ ซึ่งทั้งคู่พยายามแย่งบอลกัน และยากที่จะบอกได้ว่าใครเป็นคนทำฟาวล์ใคร หรือมีการฟาวล์เกิดขึ้นจริงหรือไม่  เพราะจังหวะที่มีการปะทะกันนั้นเริ่มตั้งแต่นอกเขตโทษ ซึ่งไม่มีนักเตะเอฟเวอร์ตันคนไหนยกมือเรียกร้องจุดโทษเลย ส่วน แฮร์ริสันเองก็ลุกขึ้นมาเล่นบอลต่อทันที แต่ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ และไม่มีการทักท้วงจากกรรมการวีเออาร์

               มิเกล อาร์เตตา กุนซืออาร์เซนอล หัวร้อนสุด ๆ กล่าวว่า “ผมดูจังหวะนั้นซ้ำไปแล้ว 15 รอบ ไม่มีทางเลย ในมุมมองของผม ที่มันจะเป็นจุดโทษ ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าพวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากจังหวะนั้น แต่แน่นอนว่า มันเปลี่ยนโมเมนตัมและผลการแข่งขันไปอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าเราสมควรได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายเราก็ได้แค่แต้มเดียว เรามีโอกาสสำคัญสองครั้งที่จะชนะเกม แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนมันเป็นประตูได้ ดังนั้นเราต้องยอมรับผลเสมอนี้”

ภาพ AFP