‘คลัง’ ยันฐานะการคลังของประเทศยังแกร่ง ไม่มีความจำเป็นต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะ พร้อมกางแบบจำลองจนถึงสิ้นปีงบ 73 หนี้ประเทศก็ยังไม่ทะลุเพดาน 70% ยกเว้นรัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน
21 เม.ย. 2568 – นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ยืนยันว่าปัจจุบันฐานะการคลังของประเทศ ในส่วนที่ สบน. ดูแลยังในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ และยังไม่มีความจำเป็นต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะแต่อย่างใด เนื่องจากมีการจัดทำแบบจำลอง โดยประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2568 จะขยายตัวที่ 3% สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2568 จะอยู่ที่ 65.5% ต่อจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 64.2% ต่อจีดีพี ส่วนปีงบประมาณ 2569 จะขึ้นไปสูงสุดที่ 67.3% ต่อจีดีพี เท่านั้น และหากการขยายตัวของจีดีพี อยู่ที่ 2% สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณสิ้นปีงบประมาณ 2569 ก็จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 68% ปลาย ๆ ต่อจีดีพีเท่านั้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่าต่อให้แบบจำลองจะมีภาพเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ แต่สัดส่วนหนี้สาธารณะก็ยังอยู่ในกรอบเพดานที่ 70% ต่อจีดีพี ยกเว้นกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุน เมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะต้องมาพิจารณาปรับเพดานหนี้สาธารณะเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงาน แต่ ณ วันนี้ ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่ในกรอบเพดานทุกประการ
“เบื้องต้นตามแบบจำลองที่ได้ทำ จนถึงปีงบประมาณ 2573 สัดส่วนหนี้สาธารณะก็ยังไม่ถึง 70% ต่อจีดีพี ส่วนในปีงบประมาณ 2568 ตามกรอบกู้ชดเชยขาดดุลนั้น ยังมีช่องว่างให้ดำเนินการได้อีก 4 พันล้านบาท จากแผนกู้ชดเชยขาดดุลที่ 8.65 แสนล้านบาท แต่หากมีปัจจัยที่เข้ามากระทบ เช่น การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายจำนวนมาก ก็ยังมีช่องที่จะสามารถใช้แผนกู้ชดเชยขาดดุลเหลื่อมปีมารองรับได้ ซึ่งตรงนี้มีช่องอีกหมื่นกว่าล้านบาท แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการจัดเก็บต่ำกว่าเป้าหมายจนทำให้เกิดปัญหาเลย” นายพชร กล่าว