เลขาธิการ สปสช. มอบ ผอ.สปสช. เขต 2 พิษณุโลก ลงพื้นที่เคลียร์กรณี รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เงินบำรุงติดลบจากบัตรทอง ยินดีรับฟังข้อมูลและแก้ปัญหาร่วมกัน คาดเกิดจากกรณีเบิกจ่ายไม่ครบถ้วน ด้าน ผอ.สปสช.เขต 2 พิษณุโลก พบ ผอ.รพ.พุทธชินราชฯ แล้ว ระบุเงินบำรุง รพ.ยังคงเหลือ 198 ล้านบาท แต่มีแนวโน้มลดลง เตรียมร่วมมือพัฒนาระบบเบิกจ่ายให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมขอบคุณที่ดูแลผู้ป่วยบัตรทองอย่างมีคุณภาพเสมอมา
21 เม.ย.2568-นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงข่าว
องค์กรแพทย์ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ชี้เงินบำรุงติดลบ เหตุ สปสช.จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่ำกว่าจริง ว่า ได้มอบให้ ทพ.สันติ ศิริวัฒนไพศาล ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 2 พิษณุโลก ลงพื้นที่ไปประสานพูดคุยกับทาง รพ.พุทธชินราชแล้ว แต่ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องขอดูข้อมูลก่อน
อย่างไรก็ดีเบื้องต้นต้องขอชี้แจงว่า ตามหลักการในการดำเนินการ หาก รพ. ไหนมีปัญหา สปสช. จะรับฟังว่าทาง รพ.ติดปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะ รพ. เป็นหน่วยบริการที่ดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ก็จะเป็นกรณีของ รพ. ที่เบิกเงินได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่ให้บริการ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการไม่เชื่อมต่อข้อมูลกับระบบ ทำให้การเบิกจ่ายทำได้ไม่ครบและมีปัญหา ซึ่งหลายๆ โรงพยาบาลคิดว่าวิธีการคีย์ข้อมูลจะได้เบิกจ่ายได้เร็วกว่า โดยในเรื่องนี้ สปสช. ต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในความร่วมมือระหว่าง สธ. และ สปสช. ในการส่งข้อมูลผ่านระบบ Financial Data Hub ที่ได้ลงนามร่วมกันในปีที่ผ่าน ทำให้ปัญหานี้ลดลงไปได้มาก
“วันนี้ สปสช. ต้องลงไปดูก่อนว่าปัญหาเกิดจากอะไร หากปัญหาเกิดที่เราก็ต้องลงไปแก้ไข ซึ่ง สปสช. ก็มี สปสช. เขตคอยทำหน้าที่ดูแล เมื่อก่อนอย่างที่ รพ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ก็เคยประสบปัญหาการเบิกจ่ายมาก่อน ซึ่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลพบว่ามาจากการเบิกจ่ายที่ไม่ครบถ้วน ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ และได้มีการแก้ปัญหาให้มีการเบิกจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ รพ.ด่านมะขามเตี้ยได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
ด้าน ทพ.สันติ กล่าวว่า ในวันนี้ (21 เม.ย. 68) สปสช.เขต 2 พิษณุโลก ได้ลงพื้นที่ รพ.พุทธชินราช และเข้าพบ พญ.รัชริน เบญจวงศ์เสถียร ประธานองค์กรแพทย์ รพ.พุทธชินราชฯ โดยหารือและสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานกองทุนบัตรทอง 30 บาท เบื้องต้นข้อมูลที่รับทราบ เงินบำรุงของโรงพยาบาลพุทธชินราชฯ ยังไม่ติดลบ โดยมีเงินบำรุงอยู่ประมาณ 198 ล้านบาท แต่ก็มีแนวโน้มที่จะลดลง ดังนั้นควรมีความร่วมมือร่วมกันระหว่าง รพ.พุทธชินราชฯ กับ สปสช. ในการพัฒนาระบบการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้มีความครบถ้วนถูกต้องทันเวลา เพื่อที่โรงพยาบาลจะได้มีเงินบำรุงสำหรับใช้จ่ายตามแนวทางการใช้เงินบำรุง
“นอกจากนี้ควรจะมีการศึกษาภาระต้นทุนที่สอดคล้องเหมาะสม เพื่อผลักดันเป็นข้อเสนอในการคำนวณงบประมาณกองทุนบัตรทอง ซึ่ง สปสช. ต้องขอขอบคุณและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ รพ.พุทธชินราชฯ ที่ให้บริการประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองอย่างมีคุณภาพเสมอมา” ผอ.สปสช.เขต 2 พิษณุโลก กล่าว
ด้าน พญ.รัชริน กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมายึดยุทธศาสตร์และเข็มมุ่งของโรงพยาบาลในการลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน เพื่อให้จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลมีความเหมาะสม นอกจากนี้มีการเพิ่มคลินิกพิเศษ ห้องตรวจ เพื่อเพิ่มรายรับเงินบำรุง แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องการเงิน ย่อมส่งผลกระทบต่อการจ้างบุคลากร จึงเห็นด้วยอย่างยิ่งหากมีความร่วมมือร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และ สปสช. ในการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนเสนอต่อรัฐบาล ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณกองทุนบัตรทองเพิ่มเติม