ธนาคารโลกยกโครงการหวยเกษียณ เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการออมที่น่าสนใจ
ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 แล้ว และตั้งกรรมาธิการจำนวน 31 คนพิจารณา เตรียมเข้าสู่วาระที่ 2 และ 3 ทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาสมัยหน้า
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่าระหว่างการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (WB-IMF Spring Meetings) ประจำปี 2568 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
ได้หารือทวิภาคีกับนายมามตา เมอร์ติ รองประธานธนาคารโลก พร้อมคณะผู้บริหารธนาคารโลก ในหัวข้อการปฏิรูประบบสวัสดิการเพื่อรองรับสังคมสูงวัย
โดยธนาคารโลกประเมินเบื้องต้นว่าไทยจัดอยู่ในประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงวัยด้วยอัตราเร่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย และมีช่องว่างทางการคลังที่จะรับมือปัญหาดังกล่าวอยู่ในระดับเทียบเท่าค่าเฉลี่ย
ประเมินเครื่องมือรับมือ ครอบคลุมถึงกองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนการออมแห่งชาติ
ที่น่าสนใจคือธนาคารโลกให้ความสำคัญกับโครงการหวยเกษียณที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างมาก
เห็นว่าเป็นนวัตกรรมน่าทึ่งดึงเอาวิถีชีวิตประชากรในประเทศมาแปลงเป็นระบบการออมที่ใช้แรงจูงใจน่าสนใจ เป็นโมเดลตัวอย่างที่ธนาคารโลกจะศึกษาเชิงลึกร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิด
เพื่อนำไปปรับใช้และเป็นแนวทางสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบปัญหาการออมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย
นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า นอกจากโมเดลหวยเกษียณจะสร้างระบบการออมที่ใช้แรงจูงใจแล้ว ยังใช้งบประมาณเพียงประมาณ 750 ล้านบาทต่อปี
แต่กระตุ้นให้เกิดการออมได้ถึงปีละ 13,000 ล้านบาทต่อปี และยังดึงเม็ดเงินจากการเสี่ยงโชคนอกระบบเข้าสู่ระบบ และแปลงเป็นการออมของประชากรในประเทศได้ด้วย
ถ้ากฎหมายนี้มีผลและกระตุ้นการออมได้ ก็จะทำให้รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณอย่างมหาศาลดูแลผู้สูงวัย เนื่องจากมีเงินเก็บไว้ใช้ยามชราภาพเองส่วนหนึ่งแล้ว!!
เภรี กุลาธรรม