LINE MAN Wongnai ชี้ “foodpanda” ยุติให้บริการในไทย ทำให้ตลาดฟู้ดดีลิเวอรี่เข้าสู่ยุค “Duopoly” แข่งกันหนัก ๆ แค่ 2 ราย เปลี่ยน “สงครามราคา” สู่ “สงครามคุณภาพ” พร้อมอ้าแขนต้อนรับ “ไรเดอร์-ร้านค้า” เตรียมเงื่อนไขพิเศษสำหรับร้านค้าใหม่
นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai แสดงความเห็นเกี่ยวกับสภาพตลาดฟู้ดดีลิเวอรี่ หลัง “ฟู้ดแพนด้า” (foodpanda) ประกาศยุติให้บริการในไทยว่า การถอนตัวของ foodpanda ทำให้อุตสาหกรรมฟู้ดดีลิเวอรี่ของไทยเข้าสู่การแข่งขันแบบ Duopoly (สถานการณ์ที่ในตลาดมีผู้ขายสินค้าประเภทเดียวกันเพียงสองราย) อย่างชัดเจน
จากข้อมูลของ Redseer ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 LINE MAN ครองส่วนแบ่งตลาดจากจำนวนธุรกรรมที่ 44% ขณะที่ Foodpanda มีส่วนแบ่งประมาณ 5% แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในจำนวนผู้เล่น แต่โครงสร้างตลาดยังคงมีเสถียรภาพ และการแข่งขันยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม
“สถานการณ์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนจาก ‘สงครามราคา’ สู่ ‘สงครามคุณภาพ’ โดยผู้เล่นที่เหลือสามารถจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น เปิดโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน และมีทรัพยากรเพียงพอในการลงทุนพัฒนาบริการใหม่”
นายยอดบอกด้วยว่า ในด้านของผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากมีตัวเลือกบริการเท่าเดิม โดยเฉพาะ LINE MAN ที่ให้บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศอยู่แล้ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้ทันที โดยไม่เสียโอกาสในการเข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่น
หนึ่งในผลกระทบหลัก คือกลุ่มไรเดอร์และร้านค้าบางส่วนที่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์ม LINE MAN Wongnai จึงเตรียมความพร้อมรองรับกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสร้างรายได้และไม่เกิดภาวะว่างงานหรือธุรกิจสะดุดชั่วคราว โดยมีมาตรการ ดังนี้
ไรเดอร์ : บริษัทกำลังพิจารณาเปิดรับไรเดอร์เพิ่มเติมในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดที่ foodpanda มีให้บริการ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการว่างงาน
ร้านค้า : ร้านค้าที่เคยขายผ่าน foodpanda สามารถเข้าร่วมขายบน LINE MAN ได้ทันที โดยบริษัทจะนำเสนอเงื่อนไขพิเศษสำหรับร้านค้าใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวและเริ่มขายต่อได้อย่างราบรื่น
“LINE MAN Wongnai พร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้ไรเดอร์-ร้านค้า เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในตลาด”