หลังจากที่นักแสดงสาว ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก เซอร์ไพรส์แฟนๆ ชาวไทย กับการได้ร่วมแสดงในซีรีส์ดังระดับโลก อย่าง The White Lotus 3 ที่ถึงแม้จะออกมาเพียงไม่กี่ฉาก ก็ถูกพูดถึงจนกลายเป็นไวรัล
ล่าสุด (24 เม.ย.) ปูมาร่วมงานเปิดตัวภาพถ่ายรณรงค์ใหม่ “เป็นนางฟ้าเพื่อสัตว์ทั้งหลาย” สำหรับ PETA ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ได้ร่วมแสดงในซีรีส์ The White Lotus 3 พร้อมเผยถึงแพลนมีลูก อีกทั้งยังเผยถึงเรื่องการประกวดนางงาม ว่าตอนนี้เริ่มใจอ่อนหรือยัง หลังจากแฟนๆ เชียร์ให้สาวปูลงประกวดกันอย่างล้นหลาม
เซอรไพรส์มากร่วมซีรีส์ The White Lotus ?
“เราเหมือนเป็นซีเคร็ทลาบูบู้เลย เขาห้ามพูด ปูก็กลัวว่าเดี๋ยวจะทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้พูดอะไรเลย ก็ไปถ่าย 2 รอบ แล้วก็ดีใจที่คนดูเยอะ ไวรัล ก็ดีใจ๊ดีใจ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงมืออาชีพทุกคน กับลิซ่า ลลิษา ลิซ่าน่ารักมาก”
มีโอกาสจะได้เห็นปูแสดงแบบเวอร์ชั่นเต็มๆ ไหม?
“ก็หวังว่านะ ปูคือเริ่มตั้งแต่ตัวประกอบจนถึงทุกวันนี้ ปูเห็นคอมเมนต์บอกว่าคนมันจะดังมันดังตั้งนานแล้ว ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน ฉันก็มูใจจะขาดแต่มันก็ยังไม่ถึง ฉันก็ไปเรียนแล้ว ก็ไปทำทุกอย่างแล้วเนี่ย แต่มันเป็นมาราธอน กว่าปูจะมีทุกวันนี้ มันก็ไม่ได้ดังข้ามคืน เพราะฉะนั้น ถ้าใช้เวลาเป็น 10 ปี มันก็คือสิ่งที่เรารัก เราก็ทำต่อไปก็แคสต่อไป บางทีแคสหลายเรื่องก็ไม่ได้ บางทีได้ ก็ดีใจ”
ท้อไหม?
“ไม่ท้อ เพราะว่าปูลดทิฐิลงแล้ว เราไม่ใช่นางเอกแถวหน้าของประเทศเขา เราคือคนเริ่มต้นใหม่ แล้วปูว่าบางทีการเริ่มต้นใหม่มันมีเหตุผลว่าทำไมต้องเริ่มต้นใหม่ เพราะเราต้องฝึกทักษะ ฝึกฝีมือ ฝึกทัศนคติ และปูก็เชื่อมาตลอดว่าถ้าเราอยากได้อะไรใหญ่ๆ เราต้องลดทิฐิตัวเอง อันนั้นต้องทำให้ได้”
แคสธรรมดาเลย?
“แคสธรรมดา ตอนที่หนูเล่นแค่ 2 ฉาก มีคนเมาธ์เยอะมาก เป็นคนในวงการกันเองไม่ใช่คนข้างนอก ส่วนคนข้างนอกเขาสนับสนุนดี เขาก็จะบอกว่าทำไมเล่นน้อยจัง นึกว่าจะใหญ่กว่านี้ เขายอมเล่นเหรอแบบนี้ แต่ปูก็บอกว่า ประโยคไม่พูดแล้วยืนอยู่หลังกล้องปูก็เล่นมาแล้ว มันไม่ได้ง่าย แต่เชื่อสิเราทำในสิ่งที่เรารัก มันไม่ได้มีอาชีพที่มันน้อยเกินกว่าที่เราทำได้อยู่แล้ว”
งานเดินพรมแดงปูก็ไปนะ?
“เพิ่งกลับมาปารีสแฟชั่นวีคปีนี้ ก็เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามันเหมือนแบบ (ถอนหายใจ) ไม่ถึงฝันสักที ไม่รู้ว่าจะไปทำไม แล้วพอแต่งงานปีแรกก็ไม่ได้ไป ไม่อยากจะไปไง แต่ปีนี้ก็ฮึดใจ อย่างที่บอกวัยนี้แล้วใครจะคิดยังไงก็ช่างมันเถอะ ไปสวยๆ ของเรา พอเราเป็นตัวของตัวเองกลับปัง ต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่แคร์อะไรแล้ว เมื่อก่อนลงไอจี เอ๊ะมันจะโป๊ไปหรือเปล่า เขาจะคิดอย่างนี้ไหม ตอนนี้เราไม่คิดอะไรแล้ว ไอจีของเรา ใครจะดูก็ดู ไม่ดูก็เลื่อนผ่าน?
แล้วมันเป็นข้อดียังไงบ้าง?
“ไม่มองอะไรแล้ว ปูรู้สึกว่าในวัยแบบนี้มีความสุขที่จะไป มีโอกาสที่จะทำก็ทำ ใครจะคิดยังไงก็ไม่เป็นไรแล้ว เพราะชีวิตมันสั้น มันชิล อยากทำอะไรที่มันมีความสุข”
แต่โอกาสก็ยังเรียกพี่ปูเสมอ?
“ดีใจมาก ก็อย่างที่บอกว่ายิ่งเศรษฐกิจแบบนี้พอเราได้งาน มีอะไรดีๆ เราก็มีความสุข”
แต่ปูเป็นมาดามแล้วนะ ยังห่วงเศรษฐกิจอยู่เหรอ?
“เราก็ต้องห่วง เราอยู่โลกเดียวกัน ร่วมกัน เราจะมองอย่างเดียวว่าเราสบาย แต่คนอื่นไม่สบาย มันก็คงอยู่ในโลกค่อนข้างแปลก ปูเชื่อว่า อย่างโควิด ฝั่งนู้นของโลกมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น สุดท้ายมันก็ลงที่เมืองไทยอยู่ดี เพราะฉะนั้นถ้าปูมองว่าถ้าชีวิตฉันสบาย แต่คนอื่นไม่สบาย แล้วภาวะเศรษฐกิจไม่สำคัญ ปูว่ามันเป็นมุมมองที่ไม่ถูก เพราะถ้าคนอื่นไม่สบายชีวิตเราก็ไม่สบายหรอก”
ก็ยังคงทำงานปกติเลย?
“ทำงานเต็มที่ เพราะว่าเราต้องคิดว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ขึ้นได้ก็มีลงได้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ วิกฤตโลกเราเห็นมาหลายอย่างแล้ว ธุรกิจจากสูงก็ต่ำได้ ดังได้ก็ดับได้ ก็เลยบอกว่าถ้าเราทำงานต่อไปเรื่อยๆ เก็บเงิน มีความคิดที่ดี และเราก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อมี Safety Net ไม่ใช่หวังอย่างเดียวว่าเขาจะมาช่วยเราตลอด”
ปูไปมูเยอะมาก ล่าสุดไปแก้บ่นหรือว่ายังไง?
“คือแม่แท้ๆ ของกู ขอปูจากพระพรหม ปูก็เลยไปขอท่านว่าจะรำให้ท่านทุกปี เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต แล้วก็ขอบคุณท่านที่ให้ปูมาอยู่กับแม่ปู แล้วก็ขอบคุณที่ท่านมีอาชีพให้กับปูและคุ้มครองครอบครัว ตอนรำก็ขอท่านว่าให้สุขภาพของพ่อแม่แข็งแรง ขอให้คนไทยมีชีวิตที่ดี ราบรื่น แล้วก็ขอให้เรามีชีวิตที่ดีด้วย ปูก็ไม่ได้เน้นไหว้ขอหนังอะไรตอนรำแต่เน้นขอโดยรวมมากกว่า ตอนนี้โฟกัสก็จะเป็นอีกแบบนึง”
เป็นลูกสาวพ่อพรหม?
“ใช่ค่ะ แต่ครั้งนี้รำราบรื่นมาก ครั้งที่แล้วเพลงดับปูใจหายเลย ตายแล้วท่าอะไรต่อเนี่ย (หัวเราะ)”
สาวสุขุมวิทมีนั่งวินมอเตอร์ไซค์?
“ใช่ นั่งมอเตอร์ไซค์ รถติดมาก ก็เลยนั่งวินมอเตอร์ไซค์ พี่วินคือเพื่อนสนิท เราคือสาวสุขุมวิท พี่เขาขับเร็วมาก พี่เขาบอก แหม พี่เห็นหนูนั่งมาหลายรอบแล้ว ยังกลัวอยู่เหรอ? ก็เลยบอกว่ากลัวสิ ถอดหมวกกันน็อก คือหน้าแดงเลย กลัวมาก แล้วพี่เขาจะยกโทรศัพท์ ก็เลยบอกว่าพี่อย่าเพิ่งถ่ายรูปเดี๋ยวหนูให้ถ่ายทีหลัง (หัวเราะ)”
คุณสามีว่าไหม?
“เขาก็พิมพ์มาเมื่อกี้ เพราะว่านั่งวินมอเตอร์ไซค์มา ว่ารถที่บ้านก็เยอะ ก็เลยบอกว่ามันติดมาก ที่จอดรถหายาก รถเธอแต่ละคันขับไม่ง่าย เอาจริงๆ คนเรามันเอาความสะดวกสบายแล้ว ถึงช้าแล้วสวยแล้วคนรอมันก็ไม่ใช่”
กลัวหลายคนมองไหมว่าคุณลักชัวรี่ แล้วมาทำแบบนี้คือทำคอนเทนต์หรือเปล่า ?
“บางทีเรามีของสวยนะ เครื่องประดับเราก็มี มอเตอร์ไซค์เราก็นั่ง เราก็ค่อนข้างมีบาลานซ์ ถามว่าในใจปูลักชัวรี่ขนาดนั้นไหมก็ไม่นะ ก็มีนานๆ ทีลงว่ามี แต่ว่าทำให้เป็นมุมมองของไลฟ์สไตล์มากกว่า ไม่ได้ทำคอนเทนต์ เป็นชีวิตจริง แต่ปูว่ายุคนี้ไม่ได้เน้นอวดรวย ปูว่ามันไม่ใช่ยุคแล้ว ไม่ใช่เวลา”
จริงๆ ปูขับมอเตอร์ไซค์เองได้ เมื่อวานยังคิดอยู่เลยว่าคันเล็กๆ คันนึงไหม เพราะก่อนที่จะมาถึงนี่ ฉันนั่งมอเตอร์ไซค์มานะ จริงๆ สาบานเลย มาแบบหัวฟูเลย เราเกิดมาจากสุขุมวิท แล้วก็ต้องจบที่สุขุมวิท เราอย่าพยายามเป็นอย่างอื่นเลย แล้วมันก็เร็วกว่าด้วย กว่ารถจะมามันนาน”
เรื่องน้องล่ะ?
“เศร้า ยังไม่มีจริงๆ ถามว่าปูอยากมีไหมก็อยาก เห็นคนอื่นมี เห็นแอบิเกล เป็นแฟนคลับน้องเขามากเลย เจ๊เกลคือน่ารัก เราก็วัยนี้แล้วเนาะ พอเห็นคนอื่นอุ้มเด็ก ก็มีความรู้สึกว่าเรามีจะเป็นยังไงนะ แต่ตอนนี้พ่อแม่ก็บ่นอยู่ว่าน้องชายปูเลี้ยงหมา 3 ตัว ปูเลี้ยง 4 ตัว แม่บอกไม่มีหลานเลยมีแต่หมา แต่ก็เหมือนลูกปูไง ตอนนี้ยังไม่พร้อม เพราะคิดจะทำก็มีงาน ได้ถ่ายหนัง”
มีแพลนฝากไข่ไหม?
“อันนี้จะมี ปีนี้จะต้องทำ เดือน 6 – 7 จะต้องทำแล้ว เดี๋ยวจะไม่มีโอกาส เวลามันผ่านไปเร็วมากเลย เดี๋ยวทำค่ะ (หัวเราะ) (ทำที่ไหน?) ทำที่นี่ค่ะ ง่ายดี เราก็ลูกครึ่งคนไทย ลูกก็เกิดที่นี่แหละ ให้เขาเกิดที่นี่ก่อน แล้วค่อยหิ้วตามไปอเมริกา แต่อยากให้อยู่ไทย เพราะว่าปูก็เกิดที่ประเทศไทย ก็ต้องสาวไทยไหม สาวไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก อยากจะมีครอบครัวที่นี่แหละ”
ปูก็ยังตลกเหมือนเดิม นึกว่าแต่งงานไปแล้วเป็นมาดามเอื้อมไม่ถึง?
“ก็อย่างที่บอกตามกาลเทศะ เราไปกินร้านสวยๆ เราก็แต่งตัวแกลม เราไปปาร์ตี้กลางคืน เราก็แต่งตัวเซ็กซี่ เราไปเจอพ่อแม่สามีก็เรียบร้อย เราก็ต้องปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าเราต้องเป็นมาดามตลอดเวลา ไปหาคุณยาย ที่อ่างทอง ใส่ชาแนลมันก็ไม่ใช่”
ที่เรายังไม่มีลูก เพราะว่าเรามีแพลนที่จะไปประกวดนางงามหรือเปล่า?
“เขาเชียร์กันหนักมากเลย จริงๆ คนส่งมาเยอะมาก เป็นคำถามที่ทักมาเยอะมาก ลงเพจนางงามก็เยอะ มีคนส่งมาให้ดู สิ่งเดียวที่กลัวในชีวิตก็โดนรีเจ็กต์มาเยอะแล้ว ไปแคสงานก็ไม่ได้ เธอคิดว่าครั้งนี้ฉันไปประกวดแล้วฉันจะโชคดีเหรอ
จริงๆ มันก็คือความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กแหละ แต่เอาจริงๆ ก็กลัวทำให้ทุกคนผิดหวัง กลัวเฟล ปูไม่ใช่คนที่เหมือนพยายามอะไรรอบแรกแล้วได้เลยนึกออกไหม ฉันก็กลัวว่าเดี๋ยวฉันเฟล แล้วฉันเศร้า”
แต่ก็มีกดตะกร้า มีขายของ?
“ฉันก็ขายของเก่งนะ”
เห็นไหมว่ามีคนเชียร์เยอะ?
“เห็น แล้วฉันก็ปลื้มมาก ขอบคุณมาก ซึ้งใจนะ ขนาดเราอยู่ที่อเมริกาคนก็มองเห็น แต่ก็ต้องรอดู ปูกลัวเฟล กลัวการแข่งขัน เหมือนจิตใจอาจจะรับไม่ค่อยได้ เพราะว่าตั้งแต่เด็กจนโตแข่งมาเยอะมากแล้ว”
แสดงว่ายังไม่มีการพูดคุยใช่ไหม เพราะว่าชาวเน็ตบางคนก็คิดว่าเรามีการดีลแล้ว?
“มีคนติดต่อมา นี่ก็เพิ่งผอมลงมา 8 โล ใจเย็นๆ ก่อน”
สัก 50:50 ไหมตอนนี้?
“ถ้าโลกในฝัน ถ้ามีความมั่นใจมากกว่านี้ ใครๆ ก็อยากจะเป็นของสวยของงามที่มี Brain Beauty แล้วก็ทำให้คนไทยภาคภูมิใจ มันก็เป็นบทบาทที่คนจะภูมิใจมาก แบบคนไทยเชียร์ทั้งประเทศ อีก 50% ก็คือมองถึงอายุตัวเอง 1.ความจำเราก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อนแล้ว 2.ตอนเดิน กลัวตอนฟูลเทิร์นจะมึนนิดนึง เราอายุ 36 แล้ว ถึงข้างนอกจะดูเด็ก แต่รับประกันว่าอวัยวะข้างใน เริ่มตามวัยแล้ว ก็สงสารองค์กรว่าแบบเอาป้าที่ไหนมา ก็เชียร์ต่อไปก่อน แต่ปีนี้ก็เชียร์น้องๆ ที่เข้าประกวดก่อน”