ปัจจุบันคุณลุงอาการยังทรงๆ ซี่โครงหัก 6 ซี่ ต้องรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ส่วนคุณป้าแม้จะขออนุญาตออกมาด้านนอกได้บ้างแต่ก็เพียงเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น เพราะครอบครัวกังวลจากกระแสข่าวลือว่า “กัน” ถูกตั้งค่าหัวถึง 1 ล้านบาท ทำให้คุณตา คุณยายไม่สบายใจอย่างมาก
ลูกสาวเผยว่า ครอบครัวไม่คิดว่าคู่กรณีจะมีอิทธิพลในพื้นที่ขนาดนี้ ทำให้ตอนแรกไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร จนกระทั่งทีมงานของ
"กัน" ติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือ สร้างความอุ่นใจอย่างมาก เพราะรู้ว่ามีทั้ง “กัน” และกระทรวงยุติธรรมเข้ามาดูแล พร้อมเตรียมจัดหาที่พักปลอดภัย (เซฟเฮาส์) หลังออกจากโรงพยาบาล

เมื่อถามถึงค่ารักษาพยาบาล "กัน" เผยว่าขณะนี้ทะลุ 2 แสนบาทแล้ว และค่าซ่อมรถประเมินไว้ที่ 3-4 แสนบาท ซึ่งฝั่งคู่กรณีอ้างว่าฝากเงินค่ารักษาไว้แล้ว 1-2 แสน แต่ครอบครัวผู้เสียหายยืนยันว่า “ไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว” และไม่เห็นหลักฐานการโอนเงินเข้ารพ.แต่อย่างใด
ด้านลูกชายเล่าว่า ครอบครัวเคยคิดจะเอาที่ดินไปจำนำเพื่อรักษาพ่อแม่ ขณะเดียวกัน “กัน” ก็ยืนยันว่าหากคู่กรณีต้องการช่วยจริง ควรโอนเข้าบัญชีรพ.ตรงๆ ไม่ควรแสดงผ่านสื่อแล้วเงียบหายไป

กรณีนี้ถูกแจ้งความ 4 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายร่างกาย, บาดเจ็บสาหัส, ทำให้เสียทรัพย์ และขับรถประมาท ด้านคู่กรณียังไม่ได้เจรจาหรือขอโทษต่อหน้าครอบครัวผู้เสียหายอย่างเป็นทางการ ส่วนกรณีที่มีการคุกเข่าขอขมาที่โรงพัก ทางครอบครัวระบุว่า “ตกใจ” และมองว่าไม่เหมาะสมเพราะยังไม่ได้พูดคุยกันถึงความผิดหรือการเยียวยาอย่างจริงจัง
ลูกสาวกล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่อีกฝ่ายทำจนถึงตอนนี้ เหมือนแค่ทำเพื่อภาพลักษณ์ ไม่ได้เกิดจากความจริงใจ พร้อมตั้งคำถามว่า หากไม่ได้แรงกดดันจากสังคม พวกเขาจะเยียวยาครอบครัวเราจริงหรือไม่?