“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลุยต่อ ล่า 4 แชมป์ หลังจากตกรอบ 8 ทีม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิต แพ้ อัล อาห์ลี 0-3
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีโปรแกรมสำคัญ ในเกมไทยลีก นัดสุดท้าย วันที่ 30 เม.ย. เวลา 18.00 น. โดย บุรีรัมย์ เปิดบ้านพบ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ตกชั้นแล้ว บุรีรัมย์ ต้องชนะ เพื่อการันตีคว้าแชมป์ไทยลีก สมัย 10 ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตามหลัง 1 แต้ม ไปเยือน พีที ประจวบ เอฟซี ซึ่ง แข้งเทพ ก็ลุ้นปาดหน้าคว้าแชมป์เช่นกัน หาก บุรีรัมย์ พลาด
โดยการแย่งแชมป์ไทยลีก โจทย์คือ ถ้า บุรีรัมย์ ชนะก็ได้แชมป์เลย แต่ถ้าเสมอ หรือ แพ้ ต้องลุ้นให้ ทรู แบงค็อก ไม่ชนะ ส่วน ทรู แบงค็อก ต้องชนะเท่านั้น แล้วลุ้น บุรีรัมย์ ไม่ชนะ จึงจะแซงได้แชมป์
บุรีรัมย์ ยังอยู่ในเส้นทางลุ้น 4 แชมป์ นอกจากไทยลีกแล้ว บอลถ้วยในไทย ช้างเอฟเอคัพ จะเตะรอบ 8 ทีมสุดท้าย เยือน จันบุรี เอฟซี ทีมไทยลีก 2 วันที่ 3 พ.ค. หากชนะเข้ารอบรองฯ พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 10 พ.ค., ฟุตบอลรีโว่คัพ เข้ารอบรองฯ พบ หนองบัว พิชญ วันที่ 18 พ.ค. และฟุตบอลสโมสรอาเซียน รอบรองฯ นัดที่ 2 วันที่ 7 พ.ค. เยือน บีจี ปทุม (นัดแรก บุรีรัมย์ ชนะ 3-1)
สรุปแล้ว คิวเตะ บุรีรัมย์ หลังจบเกมเอเชีย
วันที่ 30 เม.ย. ไทยลีก พบ หนองบัว(เหย้า)วันที่ 3 พ.ค. เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีม พบ จันทบุรี(เยือน)วันที่ 7 พ.ค. สโมสรอาเซียน รอบรองฯ นัด 2 พบ บีจี ปทุม(เยือน)วันที่ 10 พ.ค. เอฟเอคัพ รอบรองฯ(ถ้าเข้ารอบ) พบ บีจี (เหย้า)วันที่ 18 พ.ค. รีโว่คัพ รอบรองฯ พบ หนองบัว(สนามกลาง)
ด้านเงินรางวัลของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิต รวมแล้ว 1,700,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57 ล้านบาท มาจาก ค่าธรรมเนียมเล่นรอบลีก 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ค่าชัยชนะในรอบลีก 3 นัด รวม 300,000 สหรัฐ/ค่าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ค่าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย จะได้ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ