“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเส้นทางฝัน ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิต 2024-25 ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากแพ้ อัล อาห์ลี ซาอุดิ ทีมเจ้าถิ่นซาอุดิอาระเบีย 0-3

เกมเมื่อคืนวันที่ 26 เม.ย.68 ที่ ที่สนามคิง อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี สเตเดียม บุรีรัมย์ จัดทัพ 11 คนแรก มี 3 ผู้เล่นไทย ศศลักษณ์ ไหประโคน, รัตนากร ใหม่คามิ และ เสกสรรค์ ราตรี ส่วน อัล อาห์ลี จัดเต็ม นำโดยแข้งระดับโลก ทั้ง ริยาด มาห์เรซ, โรแบร์โต ฟีร์มิโน, อิวาน โทนีย์, นายทวาร เอดูอาร์ เมนดี

3 ประตูของ อัล อาห์ลี เกิดในครึ่งแรก จาก ริยาด มาห์เรซ นาทีที่ 4, เวนเดอร์สัน กาเลโน นาทีที่ 6 และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน นาทีที่ 30 ผ่านเข้ารอบรองฯ ไปพบ อัล ฮิลาล อีกทีมจากซาอุฯ ที่ชนะ กวางจู 7-0 ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตกรอบ

เกมนี้ น่าสนใจที่ บุรีรัมย์ ตัดสินใจส่ง “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารวัย 41 ปี ลงเฝ้าเสาในนาทีที่ 89 แทน นีล เอเธอร์ริดจ์ โกลตัวจริง ซึ่ง นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ให้เหตุผลว่า ถึงตอนนั้นยอมรับว่าไล่ไม่ทันแล้ว จึงมีเหตุผลเดียวที่ส่งลง เพราะต้องการตอบแทนที่ ศิวรักษ์ ทำให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตลอด 15 ปี ร่วมกันคว้ามามากกว่า 32 แชมป์ แม้มีเวลา ในสนาม ไม่เกิน 10 นาที แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน วัย 41 ปี ถูกบันทึกไว้ในฐานะนักฟุตบอลที่มีอายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนท์ เอซีแอล อิลีต ตนเอง ในฐานะประธานสโมสร พร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ และคำตำหนิจากทุกคน กับการตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อตอบแทนความทุ่มเทของศิวรักษ์

ข้อความระบุว่า

เกียรติประวัติของ “แชมป์“
การตัดสินใจส่ง “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงสนามทำหน้าที่ผู้รักษาประตู ช่วงท้ายเกม กับ อัล อาห์ลี
นอกจากผลการแข่งขัน ที่รู้ว่า ไล่ไม่ทันแล้ว ก็มีเหตุผลเดียวคือ ต้องการตอบแทนสิ่งที่ ศิวรักษ์ ทำให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยการสร้างเกียรติประวัติให้กับนักฟุตบอลคนหนึ่งที่อยู่กับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ สู้ให้กับทีม และสร้างแชมป์ให้กับทีม รวมกันมากกว่า 32 แชมป์
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นนักฟุตบอลคนเดียว ที่มีส่วนร่วมกับทุกแชมป์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และมีส่วนร่วมกับทุกชัยชนะ ทุกความพ่ายแพ้ ทุกความสุข และทุกความผิดหวัง ของทีม ไม่เกินไปนัก ถ้าจะบอกว่าทุกความรู้สึกของแชมป์ ถูกหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มายาวนานกว่า 15 ปี
แม้จะมีเวลาในสนาม ไม่เกิน 10 นาที แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน วัย 41 ปี ถูกบันทึกไว้ในฐานะนักฟุตบอลที่มีอายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนท์ เอซีแอล อิลีท รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย เป็นเกียรติประวัติที่นักฟุตบอลคนหนึ่งสมควรจะได้รับจากสโมสรที่เขาร่วมสร้างขึ้นมา
ในฐานะประธานสโมสร ผมพร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ และคำตำหนิจากทุกคน กับการตัดสินใจครั้งนี้ เพื่อตอบแทนความทุ่มเทของศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่มีให้กับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ หวังว่าแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเข้าใจ
เนวิน ชิดชอบ
ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด