วันที่ 28 เม.ย.68 พายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พายุ เนื่องจำนงค์ ระบุว่า...
มุมมองส่วนตัว: เมื่อไม่นานมานี้ฮ่องกงเพิ่งได้เปิดตัว Kai Tak Sports Park อย่างเป็นทางการแล้วบนพื้นที่ที่เคยเป็นสนามบินไคตั๊กมาก่อน โดยทางฮ่องกงตั้งเป้าให้คอมเพล็กซ์อันใหม่นี้เป็นศูนย์กลางของสถานบันเทิงครบวงจรในเอเซีย เพื่อเติมเต็มด้านการท่องเที่ยวในส่วนที่ฮ่องกงนั้นขาด/ตามหลังประเทศอื่นๆ เช่นไทยเราที่มีทางวัฒนธรรมและธรรมชาติเป็นข้อได้เปรียบ..
ซึ่งการเปิดตัว “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่ยิ่งใหญ่นี้ของฮ่องกง ประกอบกับการประกาศ phrase 2 ของคอมเพล็กซ์ทำนองเดียวกันโดยรัฐบาลสิงคโปร์เมืองกลางปีที่แล้ว เป็นสัญญานสำคัญที่บ่งบอกว่าประเทศของเราจำเป็นที่จะต้องตื่นตัวด้านการพัฒนา/เสริมช่องทางการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาประเทศไทยได้แล้ว ไม่ใช่นั่งรอให้ประเทศเพื่อนบ้านให้ตามเราทัน (หรือแซงเราไป) ในด้านการท่องเที่ยว
โดยไม่ใช่แค่ในเชิงจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามารายปี แต่รวมไปถึง “คุณภาพ” ของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา เช่น อำนาจการใช้จ่ายในประเทศไทยในระหว่างที่มาเที่ยวในไทยด้วย ดังนั้นความจำเป็นที่จะต้องมี “ตัวชักจูง” อื่นๆที่จะทำให้นักท่องเที่ยวประเภทนี้เข้ามา ซึ่งฮ่องกงและไทยก็มองเห็นตรงกันนั่นก็คือ: กีฬาและคอนเสิร์ต/การแสดง ที่มีความจำเป็นต้องมี facilities รองรับที่ดีและได้มาตรฐาน เพื่อที่เราจะสามารถดึงรายการแข่งขันใหญ่ๆหรือโชว์ดีๆมาที่ไทยได้มาขึ้นกว่าเดิม
โมเดลนี้เป็นโมเดลที่ขนาดทางลาสเวกัสเอง เมืองที่ถูกมองว่าเป็น “ศูนย์กลางแห่งการพนันของโลก” ก็ยังจำเป็นต้อง adopt มาใช้ด้วย.. เพราะภายในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาลาสเวกัสเป็นเมืองอันดับหนึ่งของโลกที่มีหลากหลายทีมกีฬาอาชีพย้ายไป/ตั้งใหม่เยอะที่สุด เพราะทางภาครัฐและภาคเอกชนของลาสเวกัสดั่งเข้าใจและเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างแรงดึงดูดเพิ่มเติมให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อให้มาเที่ยวเมืองของเขาเพิ่มซึ่งทางคาสิโนนั้นถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ที่ถึงแม้ยังจะทำรายได้เข้าเมืองทั้งด้านรายได้จากนักท่องเที่ยวและภาษี แต่หากจะทำให้เศรษฐกิจของลาสเวกัสโตและยั่งยืน พวกเขาจำเป็นที่จะต้องมี “ตัวเสริม” นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ภาครัฐและเอกชนมาร่วทกันลงทุนและให้ความร่วมมือให้การสร้างสถานบันเทิงใหม่ๆ (ทั้งทางด้านกีฬา/ด้านการแสดง) เช่น Allegiant Stadium (NFL), T-Mobile Arena (NHL), Las Vegas Ballpark (MLB), และ The Sphere (การแสดง) รวมไปถึงการสร้าง pit complex พร้อมกับเซ็นสัญญาเป็นผู้จัด F1 กลางเมืองด้วย
ซึ่งการก่อสร้างสิ่งเหล่านี้นั้นไม่ถูก (ล่าสุดโครงการของฮ่องกงใช้เงินไปร่วม 4 พันล้าน USD) การจะให้รัฐมาแบกภาระทั้งหมดก็คงไม่เหมาะสมและควรนำงบประมาณไปจัดการในเรื่องอื่นๆด้วย ดังนั้นการที่จะดึงเอาเอกชนในอุตสาหกรรมความบันเทิงมาร่วมลงทุนสร้างให้เรา เช่นที่ท่านนายกฯเศรษฐาเคยได้กล่าวไว้หลายครั้ง ซึ่งหลายบริษัทที่สนใจลงทุนก็มีธุรกิจคาสิโนในพอร์ตโฟลิโอของเขา.. การที่จะมีคาสิโนอยู่ในแผนโครงการที่ถูกตีกรอบไว้แค่ที่ 10% ของทั้งโครงการและมีกฎระเบียบควบคุมที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้และควรทำ.. ตามที่คุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่าเราควรโฟกัสที่อีก 90% ของโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ขนาดไหนครับ
#รัฐบาลแพทองธาร #นายกแพทองธาร #นายกเศรษฐา #เพื่อไทย #เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #สถานบันเทิงครบวงจร