"โสภณ-ศักดิ์" จับมือสกร.มูลนิธิลูกเติ้ง แก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่บุรีรัมย์ เปิดศูนย์ฝึกอาชีพโครงการรักศรัทธา เพาะเห็ดฟาง ดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการเผาตอซัง แก้ฝุ่น PM 2.5

นายโสภณ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย และประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายศักดิ์ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย และมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ (สกร.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์) โดยนายปิยวิทย์ เชิดกลิ่น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายอัฏฐพล สังข์โชติพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอลำปลายมาศ และคณะผู้บริหาร สกร.ระดับอำเภอทุกแห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันเปิดศูนย์ฝึกอาชีพโครงการรักศรัทธา แก้ไขปัญหาความยากจน  ณ  ตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ ด้วยการฝึกอบรมอาชีพให้แก่เกษตรกร และประชาชนในชุมชน ผ่านกิจกรรมฝึกอาชีพการเพาะเห็ดฟาง โดยใช้เศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว และตอซังข้าว ให้เกิดประโยชน์ สร้างแหล่งอาหาร และสร้างรายได้เสริม ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน พร้อมช่วยลดปัญหาฝุ่นควันจากการเผาทำลายฟางข้าวที่เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) โดย นายโสภณ ซารัมย์ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งมอบวัสดุอุปกรณ์และปัจจัยการผลิตสำหรับการเพาะเห็ดฟางให้กับกลุ่มเกษตรกรตัวแทนจากแต่ละชุมชน รวมถึงจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคการเพาะเห็ดฟางแบบง่าย ๆ ใช้วัสดุในท้องถิ่น ลดต้นทุน และสามารถทำได้จริงในพื้นที่ของตนเอง พร้อมต่อยอดเป็นอาชีพเสริมที่มั่นคงในระยะยาว

นายโสภณ กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ได้แค่สอนอาชีพ แต่เป็นการให้โอกาสพี่น้องประชาชนได้ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาความยากจนด้วยตนเอง และยังช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการเผาฟางข้าวที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ที่เข้าร่วมฝึกอบรมและร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในอนาคต แนวคิดในการดำเนินโครงการนี้เกิดจากความห่วงใยต่อปัญหาความยากจนและผลกระทบจากฝุ่นควันที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ จึงมุ่งหวังส่งเสริมให้ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้ในขณะเดียวกันกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเลือกเห็ดฟางซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความต้องการสูงในตลาด สามารถสร้างรายได้ได้เร็วในระยะสั้น และมีความยั่งยืนในระยะยาว