ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดยังคงกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ
และจับตาการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์และเวสต์เทกซัสปรับลดลง หลังตลาดยังคงกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่มีแนวโน้มอาจยืดเยื้อ ส่งผลให้มีการปรับคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์ลดลง โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มโตเพียง 2.7% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าที่เติบโตระดับ 3.0%
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมที่จะออกนโยบายผ่อนปรนภาษีรถยนต์ในวันอังคารนี้ หลังผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะถอนการลงทุนเพิ่มเติม โดยการผ่อนปรนนี้จะลดการเก็บภาษีจากชิ้นส่วนยานยนต์ที่นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั้งนี้ ประเทศจีนไม่ได้อยู่ในการผ่อนปรนในครั้งนี้
หลายประเทศสมาชิกในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) ได้ทำการเรียกร้อง และจะมีการพิจารณาการเร่งผลิตปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มเติมในเดือน มิ.ย. 68 หลังจากมีการปรับกำลังการผลิตเพิ่มเติม 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค. 68
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินของญี่ปุ่นที่ปรับเพิ่มขึ้น จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. 68 ถึง ต้นเดือน ก.ค. 68 นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของเกาหลีใต้ปรับลดลงร้อยละ 6 แตะระดับ 5.7 ล้านบาร์เรลในเดือนมี.ค. 68 เนื่องด้วยความต้องการน้ำมันเบนซินและการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลของเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง ณ เดือนมี.ค. 68 ร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แตะระดับ 15.8 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นภายในเกาหลีใต้ผลิตน้ำมันดีเซลออกมาจำนวนลดลง