จากกรณี น.ส.กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสิทธิประโยชน์ตรวจหาความเสี่ยงของกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมในทารก (Non-Invasive Prenatal Testing: NIPT) ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รับจัดซื้อจัดจ้างภายใต้งบประมาณ 500-600 ล้านบาท หรือราวๆ 1,700 บาทต่อคน มีการกำหนดคุณสมบัติในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างว่าขั้นตอนในการจำลองตัวเองของ DBA ต้องดำเนินการภายในตัวเครื่อง จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าคุณสมบัติเฉพาะ ที่กรมวิทย์ฯ กำหนดไว้ มีเพียงบริษัทเดียวในตลาดที่ตอบโจทย์ โดยผลการประมูลมีผู้เข้าร่วม 2 ราย รายที่ชนะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 100,000 บาท และต่อมาทางสปสช.ได้ปรับค่าหัวในการตรวจดังกล่าวเพิ่มเป็น 2,700 บาท ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่เจาะเลือด ขนส่ง วิเคราะห์ผลไปจนถึงรายงานผล แต่เห็นว่า เป็นราคาที่ต่ำมาก จึงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพ และจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในการประชุมกมธ.ครั้งถัดไป ขณะที่ทพ.อรรพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ชี้แจงว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศรายละเอียดสิทธิประโยชน์ ให้สามารถตรวจในสถานพยาบาลทุกแห่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศ ซึ่งในรายละเอียดนั้นยังไม่ทราบว่าออกมาเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของนโยบายนั้น ตนได้ย้ำกับสปสช.ว่า ต้องกระจายให้ทั่ว สถานพยาบาลใดสามารถทำได้ก็ให้กระจายไป

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งคำถามถึงกรณีที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปกำหนดคุณสมบัติที่ทำให้มีเพียงบริษัทเดียวที่เข้าข่าย ทางกรมวิทย์ฯ ได้รายงานเรื่องนี้เข้ามาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานมา เพราะไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง ตนเข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยบริการ ซึ่งตนย้ำว่าหากที่ได้ทำได้ก็ให้ไปที่นั่นให้หมด เท่านั้นเอง ส่วนจะตรวจสอบหรือสั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่นั้น เนื่องจากว่า ยังไม่มีใครเป็นเรื่องเป็นราว

เมื่อถามต่อว่า สส.พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่า งบฯ 2,700 บาท ในการตรวจนั้นเหมือนจะน้อยเกินไปจนทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องคุณภาพการตรวจ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปดูให้ละเอียดก่อน เข้าใจว่าทุกฝ่ายมีความปรารถนาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน แล้ววันนี้ระยะเวลาก็ผ่านมาครึ่งปีงบประมาณมาแล้ว ตนจึงบอกกับสปสช.ว่า ใครทำได้ก็ให้กระจายไปเลย แบ่งไปตามกำลัง ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีการให้แค่เจ้าหนึ่งเจ้าใดทำ