ทีมส.ส.-หมอสูติสู้แชมป์เก่า
ชิงนายกเล็ก‘เมืองสารคาม’

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ที่จะมาถึงในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ พื้นที่ที่ถูกจับตาไม่พ้นเทศบาลเมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นเทศบาลขนาดใหญ่ มีประชากรตามทะเบียนราษฎร 41,429 คน มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 35,142 คน การแข่งขันครั้งนี้ มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 ราย คือ หมายเลข 1 นพ.ไพโรจน์ ศิตศิรัตน์ ทีมหมอไพโรจน์, หมายเลข 2 นางนันท์ธนัษฐ์ บุรณถิรตระกูล ทีมเพื่อสารคามยุคใหม่ และ หมายเลข 3 นายภาคิน ติระพงศ์ไพบูลย์ อดีตนายกเทศมนตรี ทีมเก่งภาคิน

เทียบฟอร์มคู่ชิงทั้ง 3 ราย แต่ละคนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป สำหรับหมายเลข 1 นายแพทย์ไพโรจน์ หรือหมอไพโรจน์ ชาวบ้านชาวเมืองรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี เพราะเป็นอดีตสูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลมหาสารคาม ตัดสินใจอาสาเข้ามารับใช้ชาวเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยเปิดตัวลงสนามเลือกตั้งและลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องนานเกือบ 2 ปี โดยฟอร์มทีมผู้สมัคร ส.ท.ครบทีมทั้ง 3 เขต ผู้สมัครในทีมแทบทุกรายเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถอย่างน่าสนใจ มีประสบการณ์ด้านต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน แต่มีเป้าหมายตรงกัน คือ อยากเห็นเมืองมหาสารคามมีความเปลี่ยนแปลง เกิดการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ลงสนามครั้งนี้ “หมอไพโรจน์” ชูนโยบายที่ผ่านการตกผลึกจากเสียงสะท้อนของประชาชนในหลายๆ เรื่อง ในเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐาน การแก้ปัญหาน้ำท่วมชุมชนศรีมหาสารคาม ชุมชนธัญญาวาส ชุมชนนาควิชัย 3 แก้ปัญหาไฟส่องสว่าง ติดตั้งกล้องซีซีทีวี สร้างความปลอดภัยให้ชุมชน แก้ปัญหาการจัดเก็บขยะ ตามสโลแกน “เทศบาลยุคใหม่ น้ำไม่ท่วม ไฟสว่าง ทางดี ไม่มีขยะ” ชูธงชัดเจน ไม่ย้ายตลาดสด แต่จะซ่อมแซมทันที เพราะการย้ายอาจส่งผลกระทบต่อการค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าที่ไม่อยากโยกย้าย เพราะเกรงจะขายของไม่ได้

หมอไพโรจน์บอกว่า ทีมงานได้ศึกษารูปแบบไว้แล้ว จึงสามารถดำเนินการได้ทันที นอกจากนี้จะขยายเวลาค้าขายเพิ่มเติมในพื้นที่บริเวณโดยรอบตลาด รวมถึงเข้าไปดูแล พัฒนาตลาดโต้รุ่ง ตลาดชุมชน ตลาดเขียว เพื่อทำให้บรรยากาศการซื้อขายให้เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น

“มีนโยบายสร้างการเมืองใหม่ โปร่งใส ตรวจสอบได้ อยากพิสูจน์ให้เห็นว่าตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว คะแนนบริสุทธิ์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทีมหมอไพโรจน์ทำการเมืองแบบบริสุทธิ์ ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ให้ประชาชนเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจก็จะสามารถเอาชนะการซื้อสิทธิขายเสียงได้ อยากให้ทุกคนเปลี่ยนมหาสารคามไปด้วยกันกับการเมืองใหม่ที่โปร่งใส”

หมายเลข 2 “นันท์ธนัทฐ์ บุรณถิรตระกูล” หรือแม่มะลิ หลังบ้านอดีต ส.ส.มหาสารคาม “สุรจิตร ยนต์ตระกูล” หลังคลุกคลีงานการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติมานานเกือบ 30 ปี ครั้งนี้ตัดสินใจลงสนามเลือกตั้งแบบเต็มตัว ในนาม “ทีมเพื่อสารคามยุคใหม่” มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนเมืองมหาสารคามให้พัฒนามากกว่าเดิม โดยส่งผู้สมัคร ส.ท.ครบทีมทั้ง 3 เขต เพราะเชื่อว่าหากได้รับเลือกตั้ง ลูกทีม ส.ท.จะช่วยส่งเสริมผลักดันนโยบายต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยมีนโยบายเร่งด่วน คือ เรื่องการพัฒนาสาธารณูปโภคเดิมให้ดีขึ้น คือ ติดตั้งจุดน้ำดื่มสะอาด 31 ชุมชน ภายใน 99 วัน ให้ชาวชุมชนได้น้ำดื่มสะอาดฟรีเพื่อลดค่าใช้จ่าย, ลดขยะพลาสติก ลดค่าเก็บขยะ ตามคำเรียกร้องของประชาชน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งเป็นนโยบายที่สามารถทำได้ทันทีอย่างเป็นรูปธรรม

“แม่มะลิ” ยังมีนโยบายพัฒนาบ้านเมือง โดยจะปรับภูมิทัศน์บริเวณรอบองค์พระกันทรวิชัย ให้เป็นปอดแห่งใหม่ เป็นจุดเช็กอินให้ชาวมหาสารคาม สร้างพื้นที่กิจกรรมให้ชุมชน ฟื้นฟูบริเวณเลิงน้ำจั้น ที่ถือเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ที่จะปรับปรุงพื้นที่เป็นศูนย์ราชการ โดยปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจชุมชน, จะเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่รองรับผู้สูงวัยในยามลูกหลานไม่อยู่บ้าน สามารถฝากเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลได้, เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน ติดตั้งบันไดเลื่อนบนสะพานลอยเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมาโรงพยาบาลมหาสารคาม เพื่อลดอุบัติเหตุ

จากการลงพื้นที่หาเสียง แม่มะลิยืนยันว่าได้รับเสียงตอบรับของพี่น้องทั้ง 31 ชุมชนเป็นอย่างดี เพราะทุกคนอยากเปลี่ยนแปลง อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งสอดรับกับผู้นำประเทศที่เป็นผู้หญิง จึงฝากมายังชาวเทศบาลเมือง ขอให้มั่นใจ วางใจ และให้โอกาสทีมเพื่อสารคามยุคใหม่ เข้าไปบริหารงานตอบแทนความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน หากได้รับเลือกตั้ง จะถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่จะมีผู้นำหญิงคนแรกของเทศบาลเมืองมหาสารคาม

หมายเลขสุดท้าย “ภาคิน ติระพงษ์ไพบูลย์” หรือนายกเก่ง แชมป์เก่าสมัยที่ผ่านมา รอบที่แล้วได้รับคะแนนเสียงกว่า 10,000 คะแนน ครั้งนี้ฟอร์มทีมกลับมาลงสู้ศึกอีกครั้งเพื่อป้องกันแชมป์ ในนาม “ทีมเก่งภาคิน” พร้อมผู้สมัคร ส.ท.ครบทีมทั้ง 3 เขตเช่นกัน เพื่อสานต่องานพัฒนาท้องถิ่น เดินหน้าสู่เมืองอัจฉริยะ โดยนำลูกทีมลงพื้นที่เคาะประตูบ้านขอคะแนนเสียงจากประชาชน เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นเพื่อกลับเข้ามาทำงานสานต่อโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ และขยายผลความสำเร็จให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยชูโครงการสร้างหอกลองยาว, โครงการพัฒนาคลองสมถวิลให้สวยงามตลอดสาย, ยกระดับการศึกษา พัฒนาโรงเรียนสังกัดเทศบาลสู่มาตรฐานสากล, ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม 100 จุด เพิ่มจากสมัยที่ผ่านมาติดตั้งไปแล้ว 100 จุด, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จัดทำระบบฐานข้อมูลของเทศบาลเมืองมหาสารคาม ให้ประชาชนสามารถรับทราบข้อมูลได้ กับการแก้ปัญหาที่ตรงจุด และไม่หยุดพัฒนา

จากดีกรีผู้สมัครทั้ง 3 ราย ล้วนมีนโยบายการพัฒนาที่น่าสนใจแตกต่างกันไป อีกทั้งแต่ละคนมีฐานเสียงกลุ่มสนับสนุนไม่ด้อยกว่ากัน ต้องจับตากันในวันชิงชัย นโยบายของใครจะโดดเด่น เอาชนะใจชาวเทศบาลมากที่สุด ต้องมาลุ้นกันในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้