ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 1,197.26 จุด เพิ่มขึ้น 26.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,369.45 ล้านบาท หลังกนง.มีมติหั่นดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 1.75% หนุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,318.58 ล้านบาท-สถาบันซื้อสุทธิ 1,245.53 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 เม.ย.) อยู่ที่ ปิดที่ระดับ 1,197.26 จุด เพิ่มขึ้น 26.14 จุด (+2.23%) มูลค่าการซื้อขาย 54,369.45 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,318.58 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,245.53 ล้านบาท โดยดัชนีทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,197.26 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,169.23 จุด

โดย บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า SET Index ปรับขึ้นต่อเนื่อง +26.14 จุด (+2.23%) ปิดที่ระดับ 1197.26 จุด  (เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 5 วัน 10 วัน 20 วัน สะท้อนทิศทางขาขึ้น)  มูลค่าการซื้อขาย 5.42 หมื่นล้านบาท  แรงหนุนหลักคือ ผลประชุม กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายตามที่ KSS คาด คือ ปรับลดดอกเบี้ย  -25 bps สู่ระดับ 1.75% และคาดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายไทย ยังเป็นขาลงในช่วงที่เหลือของปี อีกราว 1-2 ครั้ง ฯลฯ Sector ที่หนุนดัชนี หลักๆคือ  กลุ่มชิ้นส่วน DELTA กลุ่ม ICT (ADVANC)  กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF กลุ่มธนาคาร (KBANK, KTB) ฯลฯ  ส่วนกลุ่มที่กดดัชนีคือ  กลุ่มการเงิน TIDLOR, MTC, SAWAD (คาด Sell on facts หลังกนง. ลดอัตราดอกเบี้ย ผสานกับปรับลด GDP ไทยลง)  กลุ่มโรงแรม MINT กลุ่มประกัน TLI  ฯลฯ

หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น

• SCC +5.6%  หุ้นปรับขึ้นรับ รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ราว 1,099 ลบ. (-55% y-y, พลิกมีกำไร q-q) สูงกว่าเราคาด 482 ลบ. หรือ 78% (ฐานต่ำ) และ สูงกว่าตลาดคาด 58% โดยสูงกว่าเราคาด เพราะ กำไรของธุรกิจเคมีสาย Butadiene สูงกว่าคาด และธุรกิจซีเมนต์อัตรากำไรดีกว่าคาด

แนวโน้มการฟื้นใน 2Q25F ต่อเนื่อง เพราะ   i) ธุรกิจซีเมนต์อัตรากำไรเพิ่มตามการปรับเพิ่มราคาขาย ii) ธุรกิจปิโตรเคมี product spread ฟื้นจากการ re-stock ของจีน, โรงผลิตบางส่วนปิดซ่อม และราคา feedstock ลดลง และ  iii) มีเงินปันผลโตโยต้ามาหนุน (seasonal) คงคำแนะนำ Neutral ที่ TP175.0 บาท

• BH -2.08% หุ้นปรับลง  โทนการประชุม “ลบเล็กน้อย” ผู้บริหารระบุใน 1Q25 รายได้รักษาพยาบาล (-6%yy -5%qq) ลดลง มีสาเหตุจาก Intensity ค่ารักษาโรคลดลง -8.3%y-y และรอมฎอนกระทบกลุ่มตะวันออกกลาง, บังคลาเทศ ฯลฯ  Guidance 2Q25F รายได้ลดลง -3%-5%y-y จากภาวะเศรษฐกิจ, พม่าแผ่นดินไหว (สายการบินงดบิน, เลื่อน case) และ intensity
• SPRC +5.8%, IRPC +2.3% หุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับขึ้น มีปัจจัยบวกจาก ค่าการกลั่น ณ. โรงกลั่นสิงคโปร์  เป็นทิศทางขาขึ้น ราคาปิด 28 เม.ย.ปรับขึ้น 7 วันติดแตะระดับ 5.5$/bbl VS. ต้นเดือน เม.ย. อยู่ที่ 2.7 $/bbl หรือขึ้นราว 103%
• ADVANC +3.87%  หุ้นกลุ่ม ICT  โดย ADVANC เป็น 1 ในหุ้นปันผลสูง ผสานกับเป็นเป้าหมายของกองทุน Thai ESG  และเป็นหุ้น Defensive จากการให้บริการจำเป็นภายใต้ความผันผวนจากปัจจัยภายนอก
• KBANK +3.24%, KTB +3.8% นักลงทุนเริ่มซื้อคืนดักเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน Thai ESG และ Thai ESGX เริ่มเปิดขาย 2 พ.ค. นี้ กลุ่มธนาคารเป็นหนึ่งในเป้าหมาย จากเป็นหุ้น Deep Value และปันผลสูง

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• DELTA ราคาปิด 98.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท หรือ +11.36% มูลค่าซื้อขาย 6,414.10 ล้านบาท
• KBANK ราคาปิด 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ +3.24% มูลค่าซื้อขาย 3,968.30 ล้านบาท
• ADVANC ราคาปิด 295.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท หรือ +3.87% มูลค่าซื้อขาย 3,407.94 ล้านบาท
• KTB ราคาปิด 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +3.81% มูลค่าซื้อขาย 2,596.62 ล้านบาท
• CPALL ราคาปิด 1.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ +2.49% มูลค่าซื้อขาย 2,375.80 ล้านบาท