ดุสิตธานี ชี้แจงกรณีผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567 เลื่อนประชุมใหม่เป็น 28 พ.ค. 68 ยืนยันปัญหาเกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องความถูกต้องของงบการเงิน ชี้ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันจะสิ้นสุดโดยเร็ว
นางสาวมัณฑนี สุรกาญจน์กุล เลขานุการบริษัท บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ปรากฏการแชร์ข้อความในสื่อโซเชียลประเด็น “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่อนุมัติงบฯปี’67 เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 28 พ.ค.” จนอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีการสอบถามมายังบริษัทเป็นจำนวนมากว่า
การที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่อนุมัติงบการเงิน เพราะงบการเงินมีปัญหาใช่หรือไม่ ? บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รับทราบถึงข้อกังวลดังกล่าว และขอเรียนขึ้แจงดังนี้
บริษัทขอยืนยันว่า งบการเงินที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นงบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างถูกต้อง โดยได้รับการตรวจสอบว่าจัดทำตามมาตรฐานบัญชี และเป็นงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข ตลอดจนได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัท ซึ่งได้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และความชื่อสัตย์สุจริต ตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทแล้ว
ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องความถูกต้องของงบการเงินหรือธรรมาภิบาลของบริษัท ตามที่มีความกังวลในสื่อโซเชียล บริษัทตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์ของบริษัทและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
และกำลังดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม โดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คณะกรรรมการบริษัทรับฟังคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมาย ในการตัดสินใจเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ไปดำเนินการต่อในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้มีการหารือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อสร้างความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
บริษัทเชื่อมั่นและคาดว่าสถานการณ์ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันนี้ จะสิ้นสุดโดยเร็ว เนื่องจากสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท และผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะเห็น บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) มีความเจริญก้าวหน้าและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนสมกับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง
แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไม่อาจหลึกเลี่ยงได้ แต่คณะกรรมการและผู้บริหารยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
บริษัทให้ความสำคัญกับการพิจารณาทุกประเด็นอย่างรอบด้านและถี่ถ้วน โดยจะดำเนินกระบวนการต่าง ๆ ภายใต้กรอบกฎหมายและสิทธิที่มีอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งป้องกันและบรรเทาความเสียหาย รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสุดความสามารถ