มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จับมือ อบต.เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เดินหน้าสร้างต้นแบบความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและชุมชน เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำและต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ความยั่งยืน

ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิจัยและพัฒนา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิจัยและวิชาการ กับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดย นายสมชาย ทัดชัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อยกระดับศักยภาพของบุคลากรและสมาชิกในชุมชนเกาะเกร็ดอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนการให้บริการด้านวิจัยและวิชาการแก่ชุมชนและสังคม ตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมี ผศ.ดร. ลีลา เตี้ยงสูงเนิน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย พัฒนา และนวัตกรรม (RDI) และ ดร.วริศ ลิ้มลาวัลย์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ,นายสุรจิตต์ ชื่นพันธุ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด , นายวิรัช วันแพ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด ตลอดจนอาจารย์และผู้บริหารจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด ร่วมงาน

ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์มีความยินดีและพร้อมสนับสนุนการพัฒนาชุมชนตำบลเกาะเกร็ดอย่างเต็มที่  ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกับชุมชน อีกทั้งมหาวิทยาลัยของเราตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และนนทบุรี ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการสร้างความร่วมมือกับชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะ ‘เกาะเกร็ด’ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอัตลักษณ์ชื่อเสียงโดดเด่นทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา DPU ได้ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนเกาะเกร็ดผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ชารางแดง , สมุนไพร รวมถึงการออกแบบและต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยนวัตกรรม โดยในปีนี้ ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการวิจัยที่มหาวิทยาลัยได้รับทุน Fundamental Fund (FF) ปีงบประมาณ2567 ถือเป็นจุดเน้นสำคัญที่ทั้งประเทศและชุมชนท้องถิ่นให้ความสนใจ

ผศ.ดร.พัทธนันท์ ระบุว่า เกาะเกร็ดมีศักยภาพสูง ทั้งในแง่มรดกทางวัฒนธรรม งานฝีมือที่โดดเด่น โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งมีความประณีตและสวยงาม หากสามารถพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น จะสามารถยกระดับเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้คณะวิชา/วิทยาลัยต่างๆ ร่วมลงพื้นที่เพื่อช่วยชุมชนวางแผนเชิงกลยุทธ์  โดยมหาวิทยาลัยมีศักยภาพจากหลากหลายศาสตร์ รวมทั้งวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ประกอบด้วย การแพทย์แผนไทย วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาหารเพื่อสุขภาพ ศาสตร์ด้านสุขภาพและความงาม  ซึ่งล้วนสามารถร่วมมือกับชุมชนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป้าหมายคือการนำองค์ความรู้และทักษะของอาจารย์และนักศึกษาออกไปทำงานร่วมกับชุมชน ซึ่งนอกจากจะเป็นการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงแล้ว ยังเป็นการส่งต่อคุณค่าและสร้างผลกระทบที่ดีแก่สังคม

ด้านนายสมชาย ทัดชัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาประมาณ 5 ปี และในวันนี้ ได้มีการลงนามความร่วมมือเพื่อสานต่อพันธกิจด้านวิชาการและวิจัยในระดับพื้นที่อย่างเป็นทางการเพราะตลอดช่วงที่ผ่านมา อาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้เข้ามาทำงานร่วมกับชุมชนของเราอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการพัฒนาองค์ความรู้ การวิจัยในพื้นที่ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะโครงการ 'การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ' ที่กำลังดำเนินการในเกาะเกร็ด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์วัฒนธรรมและการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น

นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยใช้องค์ความรู้ทางวิชาการมาประยุกต์ใช้ อาทิ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารหรือสินค้าท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เช่น ปัญหาน้ำเน่าเสีย ฝุ่นละออง และขยะ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของตำบลในปัจจุบัน

"การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านโดยตรง แต่ยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริงในพื้นที่ และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปต่อยอดเชิงนโยบายหรือการพัฒนาเชิงลึกได้ในอนาคต" นายสมชาย ระบุ

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ยังย้ำอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในตำบล พร้อมทั้งเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน ตลอดจนช่วยส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นของตำบลเกาะเกร็ดให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป