Pi Daily ชี้ตลาดเตรียมรับแรงกดดันจากสงครามการค้า หลังเศรษฐกิจไทย-ต่างประเทศซบเซา
GH News May 02, 2025 11:06 AM

Pi Daily ชี้ตลาดเตรียมรับแรงกดดันจากสงครามการค้า หลังเศรษฐกิจไทย-ต่างประเทศซบเซา

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 บล.พาย เผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 83 จุด (+0.2%) ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ตอบรับกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่รายงานสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.75% หลังจาก Trump ขู่จะคว่ำบาตรอิหร่านภายหลังจากเจรจานิวเคลียร์รอบที่สี่ระหว่างสหรัฐฯถูกเลื่อนออกไป 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่ประชุม กนง. ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% โดยระบุว่านโยบายการค้าสหรัฐฯและการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลักจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัย ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระยะเริ่มต้นที่ความไม่แน่นอนสูงมาก เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับลงและผลกระทบจะทอดยาวไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าการผลิตโลกที่ทำให้ประสิทธิภาพลดลงในระยะยาว

ปัจจัยทั้งหมดข้างต้นจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับลงรวมไปถึงผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นสำคัญ กรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นสมควรให้ปรับลดดอกเบี้ยลง โดยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 2% บนสมมติฐานที่ไทยถูกเก็บภาษีมิสูงมากนัก แต่หากถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูง GDP อาจขยายตัวเพียง 1.3% ทั้งนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่ยังเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจได้แก่การบริโภคภาคเอกชน (+3%YoY) การลงทุนภาครัฐ (+6.2%YoY) แต่ยังเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเห็นการเติบโตจากปีก่อน

สำหรับสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมารายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างย่ำแย่จากจำนวนคนขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.4 แสนรายมากกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.2 แสนราย นอกจากนี้ยังได้รายงานดัชนี PMI ภาคผลิตที่ระดับ 48.7 อาจจะมากกว่า Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ที่ 48 แต่ก็ต่ำกว่าระดับ 50 ที่บ่งชี้ถึงการขยายตัว แต่ถึงกระนั้นพบว่าเงินไหลออกจากสินทรัพย์อย่างพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับขึ้นอาจบ่งชี้ว่านักลงทุนประเมินว่าอาจเกิดการเจรจากันระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศ คืนนี้รอติดตามตัวเลขสำคัญได้แก่การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯและอัตราการว่างงาน Bloomberg Consensus คาดหมายไว้ที่ 1.38 แสนรายและ 4.2%

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1190 – 1210 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจทยอยทำกำไรจากการที่ดัชนีตอบรับปัจจัยหนุนไปมากแล้วและหลังจากนี้อาจมีความกังวลด้านเศรษฐกิจและปรับลดกำไรบริษัทจดทะเบียนตามมา แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นอาจเลือกเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยลง อาทิ การเงิน (MTC SAWAD) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) กลุ่มเครื่องดื่มที่จะได้ประโยชน์ช่วงหน้าร้อน (ICHI) นักลงทุนระยะกลางขึ้นไปยังรอจังหวะสะสมอีกครั้งในช่วงตลาดปรับฐาน

#ตลาดการเงิน #ข่าววันนี้ #บลพาย #SET #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.