สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์จังหวัดสุโขทัย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมีชาวไร่ยาสูบกว่า 1,000 รายร่วมประชุม มอบเงินช่วยเหลือชาวไร่ที่ประสบภัยธรรมชาติ พร้อมถกปัญหาบุหรี่เถื่อนถล่มราคา และนโยบายควบคุมยาสูบของอนามัยโลกที่บีบคั้นมากขึ้น พร้อมยื่นหนังสือถึงรัฐบาล วอนรัฐสร้างสมดุลย์ เลิกนโยบายสุดโต่ง
นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยระหว่างการประชุมว่า “ขณะนี้ชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศกำลังเผชิญความเดือดร้อนจากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่ระบาดหนักและขายกันอย่างเปิดเผยในราคาถูกกว่าบุหรี่ถูกกฎหมายถึง 2-3 เท่า ซึ่งบุหรี่เถื่อนเหล่านี้ไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีคำเตือนบนซอง และมีราคาขายเพียง 20-25 บาทต่อซอง เมื่อเทียบกับบุหรี่ถูกกฎหมายที่มีราคาสูงถึง 70-72 บาทต่อซอง ทำให้ยอดขายบุหรี่ที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโดยตรงถึงความต้องการใช้ใบยาสูบในอนาคตและกระทบต่อรายได้ของชาวไร่ที่พึ่งพาอุตสาหกรรมนี้ในการดำรงชีวิต เพราะรายได้ที่หมุนเวียนในท้องถิ่นที่ปลูกยาสูบเกือบ 20 จังหวัดทั่วประเทศหายไปเพราะบุหรี่เถื่อนกว่าปีละ 700 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ชาวไร่ยาสูบยังมีความกังวลต่อปัญหานโยบายควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกที่จะตามมาในอนาคต โดยนายประเสริฐให้ข้อมูลว่า “องค์การอนามัยโลก ไม่เคยเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่ต้องเลี้ยงปากท้องเลี้ยงครอบครัวจากการปลูกยาสูบที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัย การกำหนดนโยบายการควบคุมยาสูบในระดับโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ ในปีนี้ เราคาดว่าจะมีการพูดคุยเรื่อง การควบคุมสารปรุงและปริมาณสารนิโคตินในบุหรี่
การแบนบุหรี่ไฟฟ้า การฟ้องร้องเอาผิดเรียกค่าเสียหายต่อผู้ผลิตยาสูบ มาตรการอื่นๆที่มีความสุดโต่งเช่นกำหนดปีเกิดผู้ซื้อ และที่สำคัญคือมาตรการเกี่ยวกับข้อบทที่ 17 และ 18 ที่ต้องการให้ชาวไร่ยาสูบไปปลูกพืชอื่นทดแทนโดยอ้างมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม โดยสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อโควตาปลูกยาสูบในอนาคตและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบลำบากมากขึ้น เป็นต้น จึงอยากให้กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมเพื่อดูแลผลกระทบของชาวไร่ยาสูบ”
“ที่ผ่านมา ตัวแทนจากประเทศไทยที่ไปร่วมประชุมมักจะเป็นบุคลากรจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขและเครือข่ายที่มีมุมมองด้านเดียว คือเรื่องสุขภาพ โดยไม่พิจารณาผลกระทบในมิติอื่นๆ ทั้งเศรษฐกิจของชาวไร่ รายได้ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และรายได้ภาษีสรรพสามิตที่รัฐนำไปใช้พัฒนาประเทศ”
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ ยสท. จะสัญญาว่าจะรับซื้อใบยาแบบไม่จำกัดปริมาณ สร้างความหวังให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงในช่วงเศรษฐกิจของประเทศยังคงซบเซา แต่หากนโยบายควบคุมยาสูบออกมาในทิศทางที่สุดโต่งอีกครั้ง ความหวังของชาวไร่ก็อาจพังทลาย และยังส่งผลกระทบต่อโอกาสใหม่ๆ ของชาวไร่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์นิโคตินรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ชาวไร่ปลูกใบยาได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย”
นายประเสริฐได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและ ส.ส. จากพรรคเพื่อไทยที่ให้ความช่วยเหลือดูแลชาวไร่ยาสูบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทิ้งท้ายว่า “หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนได้ ยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านไม่ได้ ก็ไม่ควรจะไปรับเอามาตรการสุดโต่งใดๆ จากองค์การอนามัยโลกซึ่งไม่เคยฟังเสียงประชาชนชาวไร่ชาวนามาซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบอีก”
ก่อนการปิดประชุม สมาคมฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับชาวไร่ 87 ราย ที่ได้รับผลกระทบโรงบ่มใบยาสูบและไร่ยาสูบเสียหายจากแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาเมื่อปลายเดือนมีนาคม ฝนตกหนักและพายุฤดูร้อนเมื่อกลางเดือนเมษายน