สนธิญา บุก ป.ป.ช.ยื่นหลักฐานเพิ่ม ปม พีระพันธุ์ ถือหุ้น 4 บริษัท จ่อยื่นกกต.ด้วย
ข่าวสด May 02, 2025 02:00 PM

สนธิญา บุก ป.ป.ช.ยื่นหลักฐานเพิ่ม ปม พีระพันธุ์ ถือหุ้น 4 บริษัท จี้ แพทองธาร ตรวจสอบให้กระจ่าง สัปดาห์หน้ายื่นกกต. วินิจฉัยและตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากที่เคยยื่นให้มีการตรวจสอบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เนื่องจากเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้น บจ.รพีโสภาค และถือหุ้นในบริษัทอื่นรวม 4 บริษัท อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพรบ.หุ้นส่วน และหุ้นของคณะรัฐมนตรี และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561

โดยพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในงบการเงิน รอบบัญชี วันที่ 1 มิ.ย.2566 -31 ธ.ค.2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า นางโสภาพรรณ สาลีรัฐวิภาค มารดาเสียชีวิต ในส่วนของหุ้นเป็นมรดกไม่จัดการปันทรัพย์มรดก แต่เจตนายึดถือไว้เป็นประโยชน์ส่วนตน เกินระยะเวลา 5 ปี เป็นการครอบครองปรปักษ์ เพราะหุ้นเป็นสังหาริมทรัพย์ชนิดหนึ่ง ตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่ม 21 ล้านเศษ ทั้งกู้ยืมเพื่อลงทุน 14 ล้าน ในขณะเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และคงสถานะกรรมการ แล้วไปลาออกในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เฉพาะบางบริษัท

ถือเป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 167 และเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จหรือไม่ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์สาธารณะ ข้อที่ 7 ข้อที่ 8 ข้อที่ 11 ข้อที่ 17 ข้อที่ 22 ข้อกำหนดจริยธรรมฯ 2561 เป็นจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ โดนส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามหนังสือที่เคยยื่นไปแล้ว

นายสนธิญา กล่าวภายหลังเข้ายื่นหลักฐานกับ ป.ป.ช.ว่า การยื่นครั้งนี้ ตนมีความไม่สบายใจ เพราะไปยื่นบุคคลที่ตนรักและเคารพ และขอเรียนว่า ตนเคยเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ลาออกไปในช่วงลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ลูกสาวของตนยังคงเป็นสมาชิกพรรค

นายสนธิญา กล่าวว่า หากดูใบบริคณห์สนธิ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้ง 4 บริษัทยังมีชื่อบุคคลที่ตนร้อง ดังนั้น ตนขอให้นายพีระพันธุ์ออกมาชี้แจงกับสังคมให้ชัดเจน ว่าทําไมในเอกสารที่ตนได้รับมา จึงมีชื่อท่านเป็นหุ้นส่วน และไม่มีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการ เพราะเอกสารที่ตนมีมาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2568 ที่พึ่งผ่านมาไม่กี่วัน

นายสนธิญา กล่าวว่า ขอเรียนไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าขอให้มีการตรวจสอบ คัดรายชื่อบริษัทที่เป็นข่าว ว่านายพีระพันธุ์มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหารกับมีหุ้นส่วนหรือไม่ เพื่อให้เรื่องกระจ่าง และให้ท่านตัดสินใจว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก เพราะหากทั้ง 4 บริษัทนี้ยังมีชื่อนายนายพีระพันธุ์ เป็นกรรมการบริหารหรือผู้ถือหุ้น ก็จะเกี่ยวพันไปถึงตัวนายกรัฐมนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า 2 ประการที่ตนไปยื่นให้ไต่สวน ไม่ว่าจะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ ป.ป.ช. และในสัปดาห์หน้า ตนจะไปยื่นกกต. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยและตรวจสอบ หาข้อเท็จจริงว่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ยังถือหุ้นอยู่ในทั้ง 4 บริษัทหรือไม่อย่างไร และขอให้คณะรัฐมนตรีตรวจสอบข้อมูลนี้ว่าจริงหรือเท็จอย่างไร เพื่อที่จะไม่ได้โดนบุคคลอื่นร้อง เหมือนกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งหมดนี้จะส่งเอกสารให้ครบถ้วนกระบวนความ แล้วจะไปส่งให้กับ กกต.ทั้งหมด 3 ชุดชุดที่ 1 ไปผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 2 มายื่นที่ ป.ป.ช. 2 เรื่อง แล้วชุดที่ 3 จะยื่นให้กกต.

เมื่อถามว่า หากเรื่องนี้ผิดจริงนายกรัฐมนตรี จะโดนเหมือนนายเศรษฐาหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า เห็นมีนักกฎหมายบางคนที่ออกมาเขียนกรณีของนายพีระพันธุ์ ถ้าเป็นไปตามกระบวนการเรียกร้องต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีก็จะอยู่สภาพเดียวกันกับอดีตนายกฯเศรษฐา แต่การร้องของตนนั้น ร้องในลักษณะไต่สวนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.