‘เก่ง ธชย’ เผยถึงอาการป่วย หนักจนต้องโทรลาสั่งเสีย รับมีคิดเรื่องโดนทำของใส่

ทำเอาแฟนๆ เป็นห่วงอย่างมาก หลังจากที่นักร้องชื่อดัง เก่ง ธชย ประทุมวรรณ เกิดอาการชักเกร็ง ปวดท้อง อาเจียน จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลแบบกะทันหัน ล่าสุด เก่ง ธชย เดินทางมาร่วมงานในฐานะกรรมการ การประกวด The Knot 4 Cultures X Siam Fantasy : Final Round ณ สยามแฟนตาซี เอเชียทีค โกดัง 4 กรุงเทพมหานคร ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า

ไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล ตรวจแล้วเป็นอะไร?

“เกิดจากพักผ่อนน้อย สะสมมาในช่วงเดือนเมษายนนี้ มีทั้งงานคอนเสิร์ต มีงานลูกค้า คือเราต้องส่งงานให้ทันลูกค้าด้วย มีงานสต็อกเยอะ ร่างกายก็เลยแอ็กชั่น แล้วอาการวันนั้นน่ากลัวมาก มันจะวูบ ตัวเก่งเคยหน้ามืด 2 ครั้งในชีวิต ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่น่ากลัวมากๆ

วันนั้นค่อนข้างเหนื่อย พอขึ้นไปห้องนอน มันเหมือนจะหน้ามือพอพักแล้วไม่หาย แล้วมันก็ค่อยๆ ชาขึ้นมา ขึ้นมาที่หน้าอก แล้วมือก็เกร็ง แล้วที่น่ากลัวที่สุดคือมันมีอาการปากเบี้ยว แล้วก็แพนิกคิดไปไกล ปากจะร้องเพลงได้ไหม แล้วเราเคยเห็นหลายคนเป็นสโตรก แล้วเรากังวลว่าเราจะเป็นสโตรกหรือเปล่า คิดไปไกลมาก น้องก็คอยเตือนว่า “อย่าหลับตาๆ” แล้วตอนนั้นมันเหมือนจะไปแล้ว ผมโทรลาทุกคน โทรลาอาจารย์เชียง โทรลาเพื่อนทุกคน อาจจะไปแล้วนะ แม่ก็ตกใจ แล้วพอรถมารับ ไปถึงโรงพยาบาลก็ช่วยทัน

หมอวินิจฉัยว่าเสียน้ำ แล้วทุกอย่างไทม์มิ่งมันลงล็อกพอดี ถ้าเกิดทุกอย่างมาพร้อมดันมันน่าจะหนักกว่านี้ แต่พอค่อยๆ มา พอถึงมือหมอก็เลยปลอดภัย”

ไม่ได้เกี่ยวกับระบบประสาท ระบบเส้นเลือด?

“ไม่ใช่ๆ เกิดจากภาวะขาดน้ำก่อน แล้วเกิดจากอาหารที่กินด้วย ค่าไตก็ค่อนข้างสูง ผมชอบกินอาหารรสจัด”

ตอนนี้คือ ปลอดภัย?

“จริงๆ คุณหมอให้พักก่อน แล้วผมออกมาแล้ว งานมันต้องทำ ไม่ได้อยากโหมงานหนัก แต่มันทิ้งไม่ได้ ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงมากๆ เดินไปที่ไหนมีแต่คนถามว่าหายดีหรือยัง”

หลายคนส่งกำลังใจให้คุณแม่ด้วย?

“แม่เป็นห่วงผมมาก ก็อยากให้แม่รู้สึกว่าผมแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่ยอมรับว่ามันมีบ้างที่เราเพลียๆ อยู่ (งานยังค้างอีกเยอะ?) เยอะมากครับ เดือนหน้ามีไปต่างประเทศอีก (หัวเราะ) คืองานมาเรื่อยๆ งานลงเสียงทีเกือบเช้าครับ แต่จะบอกว่าไม่เหนื่อยนะครับ ลูกทำงานไหวอยู่ครับ เพราะรอดออกมาแล้วจะทำงานให้ดีที่สุดครับ”

ต่อจากนี้ดูแลยังไง?

“อาหารสำคัญครับ ต้องควบคุมอาหาร โซเดียมต่างๆ อาหารสำเร็จรูป มื้อที่ผมน็อกไปคือกินอาหารสำเร็จรูป มันผสมโซเดียมเยอะแล้วหมดอายุ ก็ต้องลดครับ ชีวิตใกล้ความตายมาก ผมเคยคิดคนเรามีหนึ่งชีวิตต้องคิดถึงอนาคต แต่ท้ายสุดต้องอยู่กับปัจจุบัน แต่พอเราอยู่ใกล้ความตายจริงๆ ทำให้เราเข้าใจกว่าสิ่งที่เราพูด วินาทีนั้นจะอยู่หรือไปคือตอนนั้นเลย ก็อยากจะทำให้ร่างกายให้ดีที่สุด แต่ส่วนใหญ่หลายคนจะคิดว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตระวังที่สุด แต่สำหรับผมคือมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ผมจะทำทุกอย่างที่ผมอยากทำ จะให้สำเร็จให้ได้ปีนี้ วินาทีนั้นคิดได้เลยว่าไม่รู้จะมีพรุ่งนี้มั้ย”

บางกระแสก็ว่าหรือโดนของอีก?

“ในแง่ความเชื่อก็คิดได้ ถามว่าคิดไหม ก็ต้องคิดบ้าง วินาทีจะเป็นจะตายไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพนะ 90 เปอร์เซ็นต์คิดเหมือนกันว่า บุญกุศลที่มีทั้งหมด  ใช่ป่ะ บุญที่ลูกเคยทำรักษาลูกด้วย พระพิฆเนศ ท้าวเวศสุวรรณ พญานาคราช ครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นับถือ โทรหาอาจารย์เชียง อาจารย์ผมจะไปแล้วสวดมนต์ให้ผมหน่อย เราก็คิดเรื่องความเชื่อ ก็มีแวบหนึ่งที่เราคิดว่าหรือจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของข่าวที่เราเคยเจอ แต่วิทยาศาสตร์ก็ตรวจเจอแล้วว่าเกิดจากอาหารกับพักผ่อนไม่เพียงพอ”

ต่อจากนี้ก็จะไม่ประมาท?

“จะไม่ประมาท จะพยายามมีสติ ในการใช้ชีวิตในการพักผ่อน ต้องดื่มน้ำ จัดสรรเวลานอนให้ดี ฝากถึงทุกคนมีเรื่องหนึ่งฟังหมอมาน่าสนใจมาก ถ้าเรานอน 3 ชั่วโมง แล้วไปทำงาน กลับมานอนอีก 2 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง เป็นการสะสมการนอน ซึ่งหมอบอกว่าไม่ใช่นะ มันผ่านไปแล้วผ่านเลย ดังนั้นคุณต้องพักผ่อนให้ดีที่สุดครับ”