ต่างกันอย่างไร ‘โควตาต่างชาติไทยลีกแบบใหม่’ พร้อมทัศนะคนลูกหนัง ช่วยพัฒนาจริงหรือ
GH News May 07, 2025 11:11 AM
ไทยลีก ฤดูกาลหน้า จะปรับโควตานักเตะต่างชาติ แล้วแตกต่าง มีผลกับนักเตะไทยอย่างไร หลังจากมีคอมเมนต์ออกมาหลากหลาย พร้อมไปอ่านทัศนะของคนลูกหนัง "มาดามแป้ง, ชนาธิป, ธีรศิลป์, โค้ชสะสม, โค้ชเฮง, ลีซอ" ถึงมุมมองในการใช้โควตาใหม่

ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลหน้า 11 ผู้เล่นแต่ละทีม อาจจะมีนักเตะไทยเพียงแค่ 4 คน

อันเนื่องจากการประกาศใช้โควตาใหม่

ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว แม็กซิมั่มของการส่งลงสนาม มันก็เท่าๆกับฤดูกาลนี้นั่นแหละ

แล้วมันต่างกันอย่างไร

ไปคลี่ไส้ในกันก่อน เทียบชัดๆ โควตาต่างชาติ

ลงทะเบียน 5+1+3 : นักกีฬาต่างชาติ(นอกเหนือเอเอฟซี-อาเซียน) 5 คน + นักกีฬาในชาติสมาชิกเอเอฟซี 1 คน + นักกีฬาอาเซียน 3 คน

ส่งลงสนาม 3+1+3 : นักกีฬาต่างชาติ 3 คน + ชาติสมาชิกเอเอฟซี 1 คน + อาเซียน 3 คน

ก็เท่ากับลงทะเบียน 9 คน ลงสนามได้ 7 คน

ลงทะเบียน 7+ไม่จำกัด : นักกีฬาต่างชาติ ลงทะเบียน 7 คน + นักกีฬาอาเซียน ลงทะเบียนกี่คนก็ได้ ไม่จำกัด (ตัดโควตาเอเอฟซีออกไป)

ส่งลงสนาม 5+2 : นักกีฬาต่างชาติ 5 คน + นักกีฬาอาเซียน 2 คน

ก็เท่ากับ ลงทะเบียนต่างชาติได้ 7 คน ส่วนอาเซียน ก็ตามสะดวก ส่วนส่งลงสนามได้ 7 คน

สูตรโควตานักเตะต่างชาติไทยลีก ที่นำมาใช้

ก็ 7 คน เท่ากัน….ต่างกันอย่างไร

รายละเอียดต่างกัน อย่างแรกคือตัดโควตาเอเอฟซีออก ไปรวมในหมวดนักเตะต่างชาติทั้งหมด

สรุปคือถ้าไม่ใช่นักเตะไทย แบ่งหมวดแค่ “อาเซียน” กับ “อื่นๆ”

ทีนี้แม้จะส่งลงสนามรวม 7 คนก็จริง แต่จุดที่มองว่าจะกระทบโอกาสนักเตะไทยคือ นักเตะที่ไม่ใช่อาเซียน

จากเดิม 3+1 (ต่างชาติ 3 + เอเอฟซี 1)

เป็น 5 ถ้วน ใครก็ได้

นั่นทำให้สโมสรที่มีศักยภาพใช้แข้งนอกเกรดดีๆ มีโอกาสจัดลงสนามเยอะขึ้น

ให้เห็นภาพง่ายๆ ถ้าเราจะคิดว่า บราซิล เก่งที่สุด แพงสุด จากเดิม ส่งบราซิลลงได้แค่ 3 คน แล้วอาจไปเกี่ยวญี่ปุ่น สักคน

มาแบบใหม่ ถ้ารวยพอ ก็ทุ่มเงินซื้อบราซิลมาเลย 7 คน ส่งลงได้ตั้ง 5 คน ไว้เปลี่ยนอีก 2

ในเมื่อที่ทางของนักเตะระดับท็อปมาถูกขยายมากขึ้น

ส่วนอาเซียน การลงสนาม จากเดิม 3 ถูกลดเหลือ 2

ด้วยศักยภาพนักเตะอาเซียน เทียบกันแล้ว ไม่กระทบแข้งไทยนัก ถึงจะเปิดเขื่อนให้ลงได้ไม่จำกัด ก็ยังยากจะเบียดนักเตะไทยอยู่ดี

ในการแย่งตำแหน่งในทีม นักเตะไทยสู้อาเซียนได้สบาย อาเซียนไม่ใช่คู่แข่ง

แต่กับต่างชาติ ไม่ใช่แบบนั้น

ดังนั้น ในโควตาส่งลงสนาม เรื่องลดอาเซียนลง 1 คน…ไม่ใช่ประเด็น ไม่สะเทือนนักเตะไทย

แต่ที่กระทบจริงๆ คือ “5 ต่างชาติ” ต่างหาก ที่เหมือนเปิดประตูให้นักเตะดีๆ ซึ่งราคาแพงๆ ลงเล่นมากขึ้น

ก็แน่นอน ถ้าคุณจะมีนักเตะดีๆ ก็ต้องมีตังค์ไปจ้าง

เหตุผลของการเปลี่ยนโควตา ตอนที่ประกาศเปลี่ยน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และประธาน บริษัท ไทยลีก จำกัด บอกว่า พัฒนาไทยลีก ให้สนุกขึ้น คุณภาพทัดเทียมลีกชั้นนำเอเชีย ที่มีโควตาต่างชาติเยอะกว่าไทย และเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาคุณภาพนักเตะไทย เพราะนักเตะไทยต้องพัฒนาตัวเองขึ้น ซึ่งโควตา 5 คนนี้ ยึดตามแนวทางเจลีก

“มาดามแป้ง” กับเหตุผลในการเปลี่ยนโควตา

ส่วนมุมมองของบุคคลในวงการ

“เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทย ของบีจี ปทุม บอกว่า แน่นอนว่าย่อมส่งผลกับนักเตะไทย ถ้าทำผลงานไม่ดี โอกาสเล่นยิ่งน้อยลง ฉะนั้นอีกมุมหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นนักเตะไทยให้ซ้อมหนักขึ้น ซ้อมเท่าเดิมไม่พอแล้ว ต้องเข้มข้นขึ้นเพื่อเบียดนักเตะต่างชาติ ถ้าทำได้ดีกว่านักเตะต่างชาติ ก็จะได้ลงเล่นเอง แต่ถ้าไม่ดีก็ไม่ได้ลงเล่น

“สภาพเศรษฐกิจตอนนี้ การจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ได้เล่นและมีเงินเดือนสูง จะต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพราะสุดท้ายถ้าหาทีมเล่นไม่ได้ ก็ต้องลดระดับลงไปเล่นในระดับไทยลีก 2 หรือ 3 เพราะตอนนี้ไทยลีก 1 ไม่มีพื้นที่ให้เล่นมากพอแล้ว นักเตะไทยต้องพิสูจน์ตัวเอง พัฒนาตัวเองตลอดเวลา เช่นเดียวกับนักเตะต่างชาติ ถ้าหากผลงานไม่ดี ก็ต้องออกไปเช่นกัน”

ชนาธิป มองว่าแข้งไทยต้องซ้อมหนักขึ้น

“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก๋า บอกว่า มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย ทุกคนก็ต้องพยายามอยู่แล้วไม่ว่าจะนักเตะไทย หรือ นักเตะต่างชาติที่เข้ามาเล่น ต้องมีคุณภาพมากพอ ต้องยกระดับตัวเอง เพื่อจะเพิ่มโอกาสในการลงเล่น ต่างชาติก็ต้องมีคุณภาพ ไม่มีคุณภาพก็อาจจะไม่ได้เล่น สุดท้ายต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ถ้าค่อยๆ มันอาจจะไม่พอแล้ว นักเตะไทยต้องพัฒนา คนที่เล่นอยู่ก็ต้องรักษามาตรฐานให้อยู่ระดับสูงให้ได้

ธีรศิลป์ ชี้นักเตะต้องยกมาตรฐาน

“โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ โค้ชพีที ประจวบ เอฟซี ให้ความเห็นว่า มองเป็นเหรียญสองด้าน ส่วนหนึ่งการใช้นักเตะไทย เพื่อดูทรงของทีม โควตามาแบบนี้ ถ้าไม่ใช้ แล้วผลงานไม่ดี ก็ดูว่าทะนงเกินไป ตนเองก็ไม่ยอมให้ประจวบตกชั้น ถึงพยายามดันเด็กไทย แต่โอกาสก็น้อย ดังนั้น อยากให้ทบทวน ถ้าไม่ทบทวนก็ระวังว่าคำพูดที่ว่า “ไม่มีดาวรุ่ง ไม่มีนักบอลไทยขึ้นมาเลย” เชื่อว่าจะไม่มีดาวรุ่งเกิดขึ้นมา นี่ตนเตือนแล้ว

โค้ชสะสม เตือนระวังไร้ดาวรุ่งไทย

“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคชลบุรี เอฟซี บอกว่า ถ้าจะมองส่วนดีคือ ถ้านักเตะไทยมีความเป็นมืออาชีพพยายามเรียนรู้จากนักเตะต่างชาติ พยายามแข่งขันก็จะเป็นเรื่องดี ขณะเดียวกัน มาตรฐานนักเตะต่างชาติก็เป็นเรื่องสำคัญต่อผลงาน ซึ่งด้วยสูตรนี้ จะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งขึ้นต่อผลงานทีม

โค้ชเฮง มองว่านักเตะไทยต้องพัฒนา

“ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย อดีตกองหน้าช้างศึก ไม่เห็นด้วยกับโควตาอาเซียน โดยกล่าวว่า อยากให้โควตาต่างชาติน้อยลง โควตาต่างชาติพอได้ แต่โควตาอาเซียนตนไม่เห็นด้วย ไม่เคยคิดว่าจะมาช่วยด้วยซ้ำ ไม่เห็นมีชาติไหนซื้อลิขสิทธิ์ไทยลีกไปดู

“เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องเอาเขามาบ่มเพาะ ส่งเสริมให้เขาเก่ง แล้วกลับไปเล่นทีมชาติ มาเป็นคู่ต่อสู้ทีมชาติไทย ผมรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อพระ เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด” ลีซอ กล่าว

ลีซอ ไม่เห็นด้วยโควตาอาเซียน

เป็นมุมมองของคนวงการลูกหนัง ทั้งนักเตะปัจจุบัน, อดีตนักเตะ, โค้ช ถึงโควตาต่างชาติใหม่

แต่ละคนมองต่างกันไป แต่ที่เห็นๆ “หัวใจ” ของคอมเมนต์คือ “จะเป็นงานที่ยากขึ้นของนักเตะไทย ดีเท่าเดิมอาจไม่พอ”

มองในมุมบวก คือ จะเป็นแรงกระตุ้นให้นักเตะไทยพยายามมากขึ้น ตั้งใจขึ้น ซ้อมมากขึ้น เพื่อเบียดนักเตะต่างชาติ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะเป็นการยกระดับตัวเอง ยกระดับนักฟุตบอลไทย

แต่คำถามก็คือ นักเตะไทยพร้อมหรือยังกับการทำงานหนักขึ้น พร้อมหรือยังกับการพัฒนาตัวเอง

และ…ถึงจะพยายามแล้ว ทำเต็มที่แล้ว

จะยังสู้นักเตะต่างชาติได้หรือไม่

รอติดตามกัน.

วุฒินล บุญวานิช

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.